ไหนใครมีเสื้อผ้าเต็มตู้บ้างคะ? โอ้โห! ยกมือกันเกือบหมดเลย ทำไงได้ล่ะ ของมันต้องมีเนอะ ไม่งั้นก็ตกเทรนน่ะสิ! แต่ขาชอปทุกคนรู้ไหมคะว่า การชอปปิ้ง Fast Fashion ของเรามีผลกระทบโดยตรงต่อสิ่งแวดล้อม สงสัยกันไหมว่าเรามีส่วนร่วมยังไง? ถ้าสงสัย ก็ไปกันต่อได้เลย เพราะหลักสูตรการรักษาสิ่งแวดล้อมของ Pynpy’ กำลังจะเริ่มแล้ว!
Fast Fashion คืออะไร?
พูดง่ายๆ Fast Fashion ก็คือเสื้อผ้าที่ผลิตขึ้นมาตามกระแส มีคุณภาพต่ำ ราคาถูก และเน้นการขายในปริมาณมาก ซึ่งตอบโจทย์ผู้บริโภคสุดๆ เลยค่ะ เพราะขาชอปสมัยนี้ซื้อง่าย หน่ายเร็ว ใส่แล้วทิ้ง พร้อมซื้อคอลเลคชั่นใหม่ตลอดเวลา ไม่งั้นตามเทรนด์ไม่ทันน่ะสิ
Fast Fashion ร้ายกับโลกยังไงเหรอ?
สำนักงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อม (EPA) รายงานว่ามีขยะสิ่งทอถึง 17 ล้านตันในปี 2018 ซึ่งถูกไปรีไซเคิลเพียง 2.5 ล้านตันเท่านั้น การใส่เสื้อผ้าตามเทรนด์สร้างกองภูเขาขยะเสื้อผ้าได้ถึงขนาดนี้เชียวนะ ไม่น่าเชื่อ!
นอกจากจะสร้างขยะแล้ว ยังทำให้เกิดมลพิษทางน้ำอีกด้วย เสื้อผ้าที่ทำจากผ้าใยสังเคราะห์อาจมีไมโครพลาสติก หรือ ชิ้นส่วนพลาสติกขนาดเล็ก เมื่อเสื้อผ้าถูกฝังกลบอยู่ในกองขยะแล้วต้องเจอฝน เจ้าพลาสติกชิ้นเล็กๆ เหล่านี้จะถูกชะล้างลงระบบน้ำเสียและไหลลงทะเลในที่สุด ทางที่ดี เราควรหันมาใส่เสื้อผ้าซ้ำๆ เพื่อลดขยะพลาสติกกันเถอะค่ะ!
แต่เพียงเลิกบริโภค Fast Fashion คงจะยังไม่พอ เพราะนอกจากเสื้อผ้าที่เราใส่ทุกวันแล้ว ยังมีผ้าอนามัยอีกอย่างที่ทุกคนต้องใช้กันบ่อยๆ ทุกเดือนอีก
ผ้าอนามัย อีกหนึ่งผู้ร้ายที่สร้างขยะให้กับโลก
เพื่อนๆ รู้ไหมคะว่าผ้าอนามัยย่อยสลายยากมากๆ เพราะมีส่วนผสมของพลาสติกอยู่ถึง 3.2 กรัม ผ้าอนามัยแผ่นหนึ่งจึงใช้เวลา 250 – 800 ปีในการย่อยสลาย ทำให้มีขยะจากผ้าอนามัย 12,000 ล้านชิ้นต่อปี ฟังดูแล้ว ก็เป็นห่วงโลกใบนี้ของเราจัง ลองคิดดูนะคะ ถ้าสมมุติมีประจำเดือนห้าวัน เพื่อนๆ อาจจะต้องใช้ผ้าอนามัยถึง 20 แผ่นต่อเดือนเลย!
เพราะฉะนั้น หากเพื่อนๆ อยากจะดูแลโลกของเรา ต้องลองใช้ผลิตภัณฑ์ประจำเดือนอื่นๆ เพื่อรับมือกับน้องเมนส์นะคะ โชคดีจริงๆ ที่ในปัจจุบันมีทางเลือกที่หลากหลาย ทำให้ทุกคนสามารถเลือกได้ตามความชอบ และ ความเหมาะสมได้เลย!
- สายคุ้นชินกับผ้าอนามัย อาจหันไปใช้ผ้าอนามัยแบบซักได้ แต่น้องอาจเคลื่อนที่และทำให้ซึมเปื้อนได้ เพราะไม่มีแถบกาวนั่นเอง
- บางคนอาจเลือกใช้ถ้วยอนามัย เพราะน้องสามารถกักเก็บของเหลวได้อย่างดี เต็มถ้วยก็แค่เทออก แต่น้องมีขั้นตอนดูแลและการใส่ที่ซับซ้อนกว่าทางเลือกอื่นๆ หน่อย
‘มีตัวเลือกที่ง่ายและสบายกว่านี้ไหมนะ?’
มีแน่นอนค่ะ! ปัจจุบันเราอีกมีทางเลือกที่ไม่ยุ่งยาก แถมยังมอบความสบายให้กับเพื่อนๆ ด้วย
ใส่ใจต่อโลกอย่างสบาย เพียงหันมาใส่ กางเกงในอนามัย Pynpy’
กางเกงในอนามัย Pynpy’ สามารถใส่แทนผ้าอนามัยได้เลย! 2-in-1 ฟังก์ชันปังสุดๆ เป็นทั้งกางเกงใน และ ผ้าอนามัย ในชิ้นเดียว ทางเลือกครบสูตรแบบนี้จะหาจากที่ไหนได้อีก?! ด้วยบริเวณซึมซับประจำเดือนที่ทำมาจากผ้าฝ้ายผสมเส้นใยไผ่ ทำให้ดูดซับรวดเร็ว และระบายอากาศได้ดี บอกได้เลยว่า สบายตัว พร้อมลุยทุกกิจกรรม!
นอกจากนี้แล้ว น้องยังสามารถใส่ได้นานถึง 8-12 ชั่วโมง โดยไม่ต้องกังวลถึงความอับชื้น และมีอายุการใช้งานถึง 2 ปี เพียงซัก ล้าง ตากด้วยวิธีสุดเรียบง่าย เพื่อนๆ ก็บอกลาผ้าอนามัยที่น่าอึดอัดและสร้างมลพิษต่อโลกกันได้เลย!
ยังเห็นภาพไม่ชัดกันหรือเปล่านะ? ไม่เป็นไรค่ะ มาลองนึกภาพตามกันนะคะ
ถ้าคนเราใช้ผ้าอนามัยอย่างน้อย 332 แผ่นต่อปี นั่นหมายความว่าขยะจะถูกเพิ่มขึ้นมาปีละ 2 กิโลกรัม! นอกจากจะสร้างภาระให้กับโลกแล้ว ยังทำให้ค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนเพิ่มขึ้นอีก เพราะว่าปัจจุบันยังไม่มีสวัสดิการผ้าอนามัยจากภาครัฐน่ะสิคะ ถึงแม้ว่าเราจำเป็นต้องใช้ผลิตภัณฑ์ประจำเดือนก็ตาม
เพราะฉนั้น กางเกงในอนามัย Pynpy’ จึงเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ทั้งเรื่องค่าใช้จ่าย และ เรื่องสิ่งแวดล้อมที่สุด ถ้าเราใช้น้องประมาณ 3 ตัวต่อปี ขยะจะหายไปปีละ 1.8 กิโลกรัมจากโลกเลยทีเดียว!
ถ้าพร้อมที่จะดูแลโลกของเราไปด้วยกันแล้ว ก็สามารถมาเป็นเจ้าของน้อง Pynpy’ ได้ ที่นี่ เลย
พบกันได้ที่ Twitter Space กับประเด็นสุดฮอตของสายแฟ
บทความนี้เพียงแค่เรียกน้ำย่อยนะคะ ถ้าเพื่อนๆ อยากรู้ข้อมูลแบบเจาะลึกเกี่ยวกับ Fast Fashion กับปัญหาขยะพลาสติกที่ล้นโลก ภายใต้หัวข้อ “กางเกงในอนามัย นวัตกรรมใหม่ ช่วยลดขยะพลาสติกได้ ( จริงหรอ ? )” ห้ามพลาด Twitter Space ระหว่าง Pynpy’ และ 𝒂𝒍𝒕𝒆𝒓 🗯 @alter_1012 ในวันที่ 29 มกราคม 2022 เวลา 2 ทุ่มตรง (20.00) กันน้า พวกเราพร้อมที่จะพูดคุย และ ให้แนวทางรักษาโลกใบนี้กับทุกคนแล้ว
ถ้าไม่อยากพลาดบทความดีๆ หรือ อีเวนต์ปังๆ แบบนี้ อย่าลืมติดตามพวกเราทาง Facebook, Youtube, Twitter, Instagram, และ LINE นะคะ แล้วเจอกันวันเสาร์ค่า