ฮัลโหลลล! สวัสดีค่ะเหล่าตัวมัมทั้งหลาย~ 🤰🏻 เพื่อเป็นการต้อนรับปีมังกรทองนี้ที่ไม่ว่าจะเข้าไปใน Social Media ไหน ก็เห็นแต่คนไปอัลตราซาวนด์ เซย์ฮัลโหลให้กับเหล่าเบบี๋ตัวจ้อยกันทั้งนั้น วันนี้ Pynpy’ ก็เลยจะมามอบเกร็ดความรู้เล็กๆ น้อยๆ ให้กับเหล่าคุณมัมที่มีเบบี๋อยู่ในท้องแล้ว และคนที่เตรียมตัวเป็นคุณมัมในเร็ววันนี้กันค่ะ 🤩
โดยหัวข้อที่เราจะพูดคุยกันในวันนี้นั่นก็คือเรื่องของ ฮอร์โมนที่สำคัญต่อการตั้งครรภ์ ค่ะ! 💖 และสาเหตุที่เราต้องคุยกันถึงเรื่องฮอร์โมนนั่นก็เป็นเพราะว่า เมื่อเราตั้งครรภ์ ร่างกายของเราก็จะผลิตฮอร์โมนที่มีความสำคัญ และส่งผลโดยตรงต่อการตั้งครรภ์ออกมา ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ Pynpy’ ก็เลยอยากจะชวนทุกคนมา Talk เรื่องนี้กันตามประสาตัวมัม ตัวให้นมบุตร ถ้าพร้อมแล้ว เราก็ไปเริ่มกันเล้ยย! 👀
ฮอร์โมนกับการตั้งครรภ์ เกี่ยวพันกันยังไง?
เมื่อตั้งครรภ์ ฮอร์โมนในร่างกายของคุณแม่ก็จะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเอสโตรเจน ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน และ ฮอร์โมนตั้งครรภ์ hCG (Human Chorionic Gonadotropin) ส่งผลให้เหล่าคุณมัมเกิดอาการฮอร์โมนแปรปรวน เกิดความวิตกกังวล กลัว เศร้า ตื่นเต้นดีใจ โดยเฉพาะในช่วงระยะเริ่มต้นของการตั้งครรภ์ค่ะ ดังนั้นถ้าคุณแม่คนไหนรู้สึกว่าตัวเองอารมณ์ไม่คงที่ ก็อย่ารีบด่วนโทษตัวเองไปนะคะ 🥰
ฮอร์โมนกับสุขภาพของเรา โดยเฉพาะกับคุณผู้หญิง ฮอร์โมนจะมีผลภาวะสุขภาพอย่างมาก ซึ่งถ้าหากฮอร์โมนเหล่านี้มีการผิดปกติ ก็จะส่งผลให้มีการเปลี่ยนแปลงกับร่างกาย โดยเฉพาะสำหรับคนที่กำลังตั้งตารอกับการตั้งครรภ์
พยาบาลแม่จ๋า, YouTuber from แม่จ๋าไขปัญหาน้องสาว channel.
และนอกจากที่ฮอร์โมนจะส่งผลให้ร่างกายและสภาพจิตใจเกิดการเปลี่ยนแปลงแล้ว ก็ยังมีฮอร์โมนที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากต่อการตั้งครรภ์ของคุณแม่อีกด้วยนะคะ โดยฮอร์โมนอื่นๆ ที่ Pynpy’ ว่ามาจะมีอะไรบ้าง ดูได้ตามลิสต์ด้านล่างเลยค่า~ 💖👇🏻
1. ฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen)
ฮอร์โมนเพศหญิงที่ร่างกายผลิตออกมาเอง มีหน้าที่ในการควบคุมระบบสืบพันธุ์ของผู้หญิง เมื่อตั้งครรภ์ ฮอร์โมนนี้ก็จะถูกผลิตออกมาจากรกของตัวอ่อนในครรภ์ ช่วยให้ร่างกายของคุณแม่สามารถตั้งครรภ์ได้อย่างเหมาะสม และช่วยให้เบบี๋ในท้องมีการเจริญเติบโตที่แข็งแรง
2. ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน (Progesterone)
ฮอร์โมนที่มีส่วนสำคัญในการควบคุมอาการไข่ตก การมีประจำเดือน และการสร้างฮอร์โมนหลายชนิด ฮอร์โมนนี้จึงมีความสำคัญต่อการเกิดรอบเดือนและการตั้งครรภ์โดยตรง เพราะฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนจะกระตุ้นให้ผนังมดลูกหนาขึ้น และช่วยยับยั้งมดลูกไม่ให้บีบตัวในระหว่างการตั้งครรภ์
3. ฮอร์โมน hCG (Human Chorionic Gonadotropin)
ฮอร์โมนตั้งครรภ์ที่ถูกผลิตมาจากเซลล์ของรก ซึ่งฮอร์โมนตัวนี้จะเกิดขึ้นเฉพาะตอนที่ตั้งครรภ์เท่านั้น โดยฮอร์โมน hCG จะช่วยให้ตัวอ่อนฝังตัวที่ผนังมดลูก กระตุ้นรังไข่ให้สร้างฮอร์โมนตัวอื่นๆ ออกมาจนมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น และยังสามารถตรวจการตั้งครรภ์จากฮอร์โมนนี้ได้อีกด้วย
4. ฮอร์โมน hPL (Human Placental Lactogen)
ฮอร์โมนที่ถูกผลิตขึ้นจากรก มีหน้าที่ในการส่งสารอาหารไปหล่อเลี้ยงเบบี๋ในครรภ์ และช่วยกระตุ้นต่อมน้ำนมของคุณแม่ให้พร้อมสำหรับการให้นมลูกหลังจากคลอด
5. ฮอร์โมนโปรแลคติน (Prolactin)
ฮอร์โมนที่ถูกผลิตมาจากต่อมใต้สมอง ช่วยในการกระตุ้นต่อมเต้านมของคุณมัมให้สร้างและหลั่งน้ำนม รวมไปถึงมีส่วนช่วยในการควบคุมการตกไข่ เพื่อให้ประจำเดือนมาปกติ
6. ฮอร์โมนออกซิโทซิน (Oxytocin)
ฮอร์โมนที่ถูกผลิตขึ้นจากต่อมใต้สมองไฮโปทาลามัส (Hypothalamus) โดยฮอร์โมนตัวนี้จะหลั่งออกมาตอนที่ผู้หญิงคลอดลูก ช่วยให้กล้ามเนื้อมดลูกบีบรัดตัวมากขึ้น และยังช่วยเรื่องการกระตุ้นการหลั่งของน้ำนมให้เพียงพอต่อเบบี๋
และทั้ง 6 ฮอร์โมนนี้ คือเหล่าฮอร์โมนที่มีความสำคัญต่อเหล่าคุณมัมที่กำลังตั้งครรภ์มากๆ ค่ะ 🙌🏻 แต่นอกจากที่การหลั่งของฮอร์โมนจะส่งผลต่อสภาพจิตใจแล้ว การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนก็ยังส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกายอีกด้วยค่ะ แต่การเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกายที่เกิดขึ้นจะมีอะไรบ้าง เช็กตามเช็กลิสต์นี้กันได้เลย! ✅
ฮอร์โมนที่เปลี่ยนไป ส่งผลต่อร่างกายที่เปลี่ยนแปลง
ในระหว่างการตั้งครรภ์ ระบบและฮอร์โมนต่างๆ ในร่างกายจะมีการปรับตัวเพื่อให้เหมาะสมต่อการเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย ทั้งร่างกายของคุณมัมและเบบี๋ในท้อง ทั้งหมดนี้ก็เพื่อให้เบบี๋ในท้องสามารถเติบโตได้อย่างปลอดภัยและแข็งแรงนั่นเอง คุณแม่ที่กำลังอ่านบทความนี้อยู่ มาถึงตรงนี้ ลองเช็กกันดูนะคะว่าการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น มีอะไรที่ตรงกับเช็กลิสต์นี้กันบ้าง? 🤔
ระบบอวัยวะสืบพันธุ์
เช่น เยื่อบุช่องคลอดมีสีคล้ำขึ้น, มีสารคัดหลั่งหรือตกขาวใสเพิ่มขึ้น, ปากมดลูกมีสีคล้ำ, มีมูกปากมดลูกเยอะ, มดลูกมีขนาดใหญ่ขึ้นเนื่องจากมีเส้นเลือดไปเลี้ยงเพิ่มขึ้น ไปจนถึงการที่ท่อนำไข่มีขนาดใหญ่ขึ้น
ระบบหัวใจและหลอดเลือด
หัวใจจะยกสูงขึ้นและเอียงไปทางซ้าย วางตัวอยู่ในแนวนอนมากขึ้น ซึ่งเกิดจากการที่อวัยวะในช่องท้องโดนมดลูกที่มีขนาดโตขึ้นเบียดขึ้นมาทางด้านบน ทำให้กะบังลมถูกดันตัวให้ยกสูงขึ้นตามไปด้วย และในระยะเวลาการตั้งครรภ์ ขนาดของหัวใจโดยรวมจะโตขึ้นประมาณร้อยละ 12 หรือประมาณ 80 มิลลิเมตร
ระบบทางเดินหายใจ
การเปลี่ยนแปลงของระบบทางเดินหายใจจะสัมพันธ์กับความต้องการออกซิเจนที่เพิ่มสูงขึ้นของคุณแม่และเบบี๋ในครรภ์ ซึ่งมีผลมาจากฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนเป็นหลัก รวมถึงทรวงอกจะมีขนาดใหญ่ขึ้น เนื่องจากกระบังลมที่ถูกมดลูกดันให้สูงขึ้นมาประมาณ 4 ซม.
ระบบทางเดินปัสสาวะ
ในช่วงไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์ ไตจะเริ่มขยายขนาดใหญ่ขึ้น หลังจากนั้นท่อและกรวยไตก็จะขยายเต็มที่ในช่วงไตรมาสที่สองของการตั้งครรภ์และส่งผลต่อกระเพาะปัสสาวะ เป็นผลมาจากฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน ส่งผลให้ในช่วงไตรมาสแรก เหล่าคุณแม่จะมีอาการฉี่บ่อย ฉี่เล็ด ฉี่กะปริบกะปรอย และจะดีขึ้นในช่วงไตรมาสสุดท้ายของการตั้งครรภ์
จากระบบร่างกายที่เปลี่ยนแปลงทั้งหมดที่ Pynpy’ ลิสต์มา ทุกคนจะเห็นได้ว่าการเปลี่ยนแปลงทางระบบทางเดินปัสสาวะนั้นส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันของเหล่าคุณมัมมากที่สุด เนื่องจากอาการฉี่เล็ดและฉี่กะปริบกะปรอย ทำให้คุณมัมทุกคนต้องเลือกใส่และใช้ผลิตภัณฑ์อนามัยที่มีคุณภาพ ปลอดภัย สบายน้องสาว อย่างเช่น กางเกงในอนามัย เป็นต้น 🥳
กางเกงในอนามัย Pynpy’ ตัวเลือกที่ใช่สำหรับตัวมัม!
หากจะให้ Pynpy’ เลือกใช้ผลิตภัณฑ์อนามัยสักอย่างในระหว่างการตั้งครรภ์ Pynpy’ ก็คงจะเลือกใช้ กางเกงในอนามัย Pynpy’ แบบไม่ต้องลังเลเลยค่ะ! 😍 เพราะผลิตภัณฑ์ของเราถูกผลิตด้วยเทคโนโลยีพิเศษ ทำให้สามารถระบายอากาศและป้องกันการซึมเปื้อนได้อย่างดีเยี่ยม อีกทั้งยังซึมซับเร็ว แห้งไว รู้สึกสบายน้องสาวตลอดเวลาที่สวมใส่อีกด้วยน้า 🥳
โดยกางเกงในอนามัย Pynpy’ เป็นกางเกงในอนามัย (Period Panties) ที่ทำให้เหล่าคุณมัมสามารถสวมใส่ผลิตภัณฑ์ของเราเพียงตัวเดียวก็เอาอยู่ทุกสถานการณ์ ไม่จำเป็นต้องใช้ผลิตภัณฑ์อนามัยอื่นๆ ให้เปลืองเวลาและทรัพย์สิน และยังสามารถใส่ได้นานสูงสุดถึง 12 ชั่วโมง ไม่ต้องลุกไปเปลี่ยนบ่อยๆ โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสสุดท้ายของการตั้งครรภ์ที่แค่ลุก-นั่งก็ลำบากแล้ว 🤰🏻
แต่ไม่ว่าจะกำลังอยู่ในช่วงไหนของการตั้งครรภ์ หรือขนาดท้องจะใหญ่ขึ้นแค่ไหนก็ไม่ต้องกังวลค่ะ! เพราะกางเกงในอนามัย Pynpy’ เรามีถึง 11 ไซส์ รองรับทุกสรีระของเหล่าคุณแม่ และยังมีถึง 3 รุ่น ให้คุณแม่ได้เลือกใส่ตามไลฟ์สไตล์ รับรองว่าไม่ว่าจะเป็นคุณแม่สายไหน กางเกงในอนามัย Pynpy’ ก็พร้อมสแตนด์บายด์รอแน่นอนน~
คุณภาพปังจนจะเครซี่ขนาดนี้ ถ้าคุณแม่คนไหนอยากมีกางเกงในอนามัย Pynpy’ เป็นของตัวเอง ก็สามารถไปอ่านรีวิวก่อนซื้อได้ที่นี่ หรือถ้าใครพร้อมเปย์แบบสุดๆ ก็สามารถเลือกซื้อได้ทั้งทางออนไลน์และหน้าร้านทุกสาขาเลยนะคะ แล้วอย่าลืมไปติดตาม Pynpy’ ในช่องทาง Facebook, Twitter, Instagram, YouTube, TikTok และ Line กันน้า 🥰💖