fbpx

ไขข้อข้องใจ! “การทำหมันหญิง” ประสิทธิภาพดีจริงไหม? ความเสี่ยงมีอะไรบ้าง?

“การคุมกำเนิด” ในปัจจุบันถือว่าเป็นสิ่งที่เพื่อน ๆ ยังคงให้ความสนใจกันอย่างต่อเนื่อง! 😀 Pynpy’ เห็นด้วยมาก ๆ เลยน๊า หากเราสามารถป้องกันและเข้าสู่กระบวนการอย่างถูกวิธีที่ถูกต้อง ปลอดภัย! วันนี้เตรียมจัดเต็มสาระเน้น ๆ กับ “การทำหมันหญิง” ว่ามีกี่ประเภท จะเจ็บอย่างที่คิดไหม แล้วพักฟื้นนานหรือไม่ ประสิทธิภาพเป็นอย่างไร แล้วความเสี่ยงอะไรบ้าง เช่น เลือดออกหลังทำหมัน ที่เราจะต้องเตรียมรับมือ แอบกระซิบด้วยล่ะ ว่ามีทริคและไอเท็มลับมาเฉลยต่อท้าย! ว่าแล้วก็มาลุยกันเล้ย!

ความสัมพันธ์กับคู่รัก

1.การทำหมันหญิง (Female Sterilization) คืออะไร?

เชื่อว่าเพื่อน ๆ คงเคยได้ยินกันมาแล้วกับ “การทำหมันหญิง” (Female Sterilization) ซึ่งแน่นอนค่ะว่า เป็นวิธีที่หลายคนแนะนำ บอกต่อ กันมาอย่างยาวนานม๊าก…
ว่าเป็นวิธีการคุมกำเนิดที่ประสิทธิภาพสูง เอาอยู่ที่สุด!

และ ใช่ค่ะ!
“การทำหมันหญิง” (Female Sterilization) เป็นวิธีที่ประสิทธิภาพสูงมาก
อัตราการล้มเหลวที่ส่งผลให้เกิดการตั้งครรภ์ถือว่าน้อยที่สุด! เฉลี่ย 0.5-0.7% เท่านั้น!
OMG!! น้อยมากเลยใช่มั้ยล่ะคะ! นอกจากอัตรา % การล้มเหลวที่น้อยมากแล้วเนี่ย “การทำหมันหญิง” ยังเป็นวิธีที่คุ้มค่าระยะยาวมาก ๆ ด้วยค่ะ
ทั้งในแง่การประหยัดค่าใช้จ่าย ความปลอดภัยของร่างกายเนื่องจากแพทย์จะเป็นคนผ่าตัด ดูแล รวมไปถึงติดตามการรักษาโดยตรง!

bleeding after hysterectomy

นอกจากนี้ทางทวิตเตอร์แอคเคาท์ Prime Fertility center (@PrimeFertility) คลินิกรักษาผู้มีบุตรยาก ก็ยืนยันและแนะนำอีกเสียงนะคะว่า
“การทำหมันหญิง” ถือเป็นการคุมกำเนิดชนิดหนึ่งที่มีประสิทธิภาพสูงมาก เป็นวิธีที่ประหยัด ปลอดภัยมีอัตราการล้มเหลวทำให้เกิดการตั้งครรภ์น้อยมาก
เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการคุมกำเนิดด้วยประสิทธิภาพที่สูงอย่างยิ่ง!

โพสเกี่ยวกับการทำหมันหญิง

อ๊ะๆ! เห็นประสิทธิภาพแล้วตาลุกวาวกันไม่น้อยเลยใช่ไหมล่ะคะ ก่อนจะตัดสินใจ Pynpy’
ขอเชิญชวนมาอ่านประเภทของการทำหมันเพื่อประกอบการตัดสินใจอีกครั้งน๊า มาเล้ย!

Pynpy’ Tips :

“การทำหมันหญิง” (Female Sterilization) หากเป็นสามี-ภรรยา ควรเป็นการตัดสินใจร่วมกันทั้งสองฝ่ายนะคะ เนื่องจากจะทำให้ไม่สามารถมีบุตรและหากต้องการมีอีกครั้งจะต้องทำการแก้หมันนั่นเองค่ะ กล่าวคือ “การทำหมันหญิง” เหมาะสำหรับผู้ที่มีบุตรและรู้สึกเพียงพอแล้ว จนมั่นใจว่าจะไม่มีเพิ่มอีกในอนาคตนั่นเองค่า :)

3.ประเภทของการทำหมันหญิง

หลังจากทราบว่า “การทำหมันหญิง” (Female Sterilization) คืออะไรกันไปแล้ว เรามารู้ให้ลึกถึงประเภทของการทำหมันหญิงเลยดีกว่าค่ะ ว่ามีกี่ประเภท
แล้วแต่ละแบบนั้นแตกต่างหรือมีจุดเด่นอย่างไรบ้าง เพื่อเป็นการประกอบการตัดสินใจในอนาคต!

ปรึกษาแพทย์

1.) การทำหมันหลังคลอด (การทำหมันเปียก)

สำหรับ “การทำหมันเปียก” ถือว่าเป็นที่นิยมมากค่ะ เนื่องจากสะดวกโดยสามารถทำหลังจากคลอดบุตรได้เลย!
ภายใน 48 ชั่วโมงแรกหลังคลอดบุตรหรือหากไม่สะดวกก็สามารถทำได้ภายใน 6 สัปดาห์แรกหลังคลอดบุตรได้เช่นกัน
นอกจากความสะดวกที่เกริ่นไป อีกหนึ่งจุดเด่นคือ แผลผ่าตัดมีขนาดเล็กมาก 2-5 ซม.เท่านั้น! และเมื่อทำเสร็จแล้วควรนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลโดยประมาณ 1-2 วัน และท้ายที่สุดหลังจาก 6-7 วันค่อยมาตัดไหมค่ะ

Did you know?

การทำหมันหลังคลอด (การทำหมันเปียก) นอกจากจะสะดวกต่อตัวผู้ผ่าตัดแล้ว ยังสะดวกกับแพทย์ที่ผ่าตัดด้วยน๊า เนื่องจากหลังคลอดบุตร มดลูกยังคงมีขนาดโตอยู่ที่บริเวณช่องท้องเหนืออุ้งเชิงกราน ทำให้สามารถหาท่อนำไข่ทั้งสองข้างได้ง่าย และส่งผลให้การผ่าตัดเป็นไปด้วยความราบรื่นมากยิ่งขึ้นนั่นเองค่ะ เรียกได้ว่าง่ายดายไปหมด!

2.) การทำหมันปกติ (การทำหมันแห้ง)

สำหรับการทำหมันปกติ (การทำหมันแห้ง) ก็เป็นที่นิยมมากเช่นเดียวกันค่ะ ความปังก็คือ ใช้เวลาไม่นาน เพียง 10-15 นาทีเท่านั้น! แถมทำเสร็จสามารถนอนพักฟื้นเพียง 2-3 ชั่วโมงก็กลับบ้านได้เลยด้วยค่ะ! หลังจากนั้น 6-7 วันแพทย์จึงนัดมาทำการตัดไหม ซึ่งวิธีนี้มีความแตกต่างจากแบบแรกเพียงเล็กน้อยคือมดลูกจะมีขนาดปกติและยังคงอยู่ในอุ้งเชิงกราน การผ่าตัดจึงมีความยากมากกว่าการทำหมันเปียกเพียงเล็กน้อยนั่นเอง

3.) การทำหมันแบบ Essure

มาต่อกันที่ประเภทที่สาม “การทำหมันแบบ Essure” สำหรับวิธีนี้ถือว่ามีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดสูงกว่า 2 แบบแรกแถมระยะเวลาในการทำเพียง 5 นาที ไม่ต้องพักฟื้น! ซึ่งกระบวนการในการทำหมันแบบ Essure เป็นการกั้นไม่ให้สเปิร์มและไข่มาพบกัน โดยจะใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์ลักษณะขดลวดสอดเข้าไปในท่อนำไข่ข้างละขด ผ่านกล้องตรวจโพรงมดลูกเข้าไปทางช่องคลอดและผ่านปากมดลูก เพื่อสร้างปฏิกิริยาพังผืดมาปิดท่อนำไข่ ทั้งนี้ หลังจากทำหมันแบบ Essure ไปแล้วครบ 3 เดือนแพทย์จะทำการนัดติดตามผล ซึ่ง Pynpy’ ขอย้ำเลยนะคะ ว่าห้ามผิดนัดเด็ดขาด! เพราะเป็นการตรวจดูเครื่องมือที่ติดไปอย่างละเอียดเพื่อประสิทธิภาพการใช้งานที่ดีที่สุดนั่นเองค่ะ

bleeding after hysterectomy

4.) การทำหมันโดยการตัดมดลูกในเพศหญิง (Hysterectomy)

ปิดท้ายด้วยประเภทสุดท้าย “การทำหมันโดยการตัดมดลูกในเพศหญิง” (Hysterectomy) อ่านแล้วอย่าเพิ่งหวั่นใจหรือกังวลไปถึงผลกระทบมากไปน๊า
เพราะไม่ได้น่ากลัวหรือร้ายแรงอย่างที่คิดเลยค่ะ สำหรับวิธีนี้เป็นการผ่าตัดเพื่อนำมดลูกออกไปจากร่างกาย แต่ไม่ได้นำรังไข่ออกไป ซึ่งวิธีนี้จะเป็นการคุมกำเนิดได้แบบถาวรเลยค่ะ แถมยังมีข้อดีและทางการแพทย์ยังทำเพื่อรักษาโรคและอาการผิดปกติภายในบางอย่างอีกด้วย เช่น เยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่, ประจำเดือนมามากผิดปกติ, มะเร็งปากมดลูก เป็นต้น

อ่านมาถึงตรงนี้เชื่อว่าเพื่อน ๆ คงว้าวกันไปไม่น้อยเลยใช่ไหมล่ะคะ เพราะ “การทำหมันหญิง” (Female Sterilization)
มีหลากหลายรูปแบบ แถมแต่ละแบบไม่ได้น่ากลัวและพักฟื้นนานอย่างที่คิดเลย ทั้งนี้หากเพื่อน ๆ สะดวกแบบไหน ระยะเวลาพักฟื้นมากน้อยอย่างไร
ควรประเมินและวางแผนก่อนตัดสินใจทำอย่างถี่ถ้วนน๊า

4.ข้อดีและข้อเสียในการทำหมันหญิง

ข้อดี :

  • ประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลา เนื่องจากเป็นการคุมกำเนิดระยะยาวและไม่ต้องพักฟื้นนาน
  • เป็นการคุมกำเนิดที่ประสิทธิภาพสูงสุด เหมาะสำหรับการวางแผนครอบครัวระยะยาว
  • สามารถลดความเสี่ยงจากการเกิดผลกระทบและผลข้างเคียงจากฮอร์โมน เมื่อเทียบกับการกินยาคุมกำเนิดแบบปกติ
  • ไม่เป็นอุปสรรคต่อการมีเพศสัมพันธ์ในอนาคต
  • ไม่มีผลข้างเคียงหรือเป็นอันตรายต่อการให้นมบุตร

ข้อเสีย :

  • ไม่สามารถใช้งานเพื่อป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้
  • มีแผลเป็นรอยผ่าตัดบริเวณหน้าท้อง
  • หากการคุมกำเนิดด้วยวิธีการทำหมันหญิงล้มเหลว อาจมีความเสี่ยงในการตั้งครรภ์นอกมดลูกค่อนข้างสูง
safe sex

5.การดูแลตัวเองภายหลังการทำหมันหญิง

สำหรับการดูแลตัวเองภายหลังการทำหมันหญิง ก็สะดวกมากเช่นกันค่ะ Pynpy’ ได้ทำการสรุปมาให้เรียบร้อย 😀

  • หลังผ่าตัด : ควรนอนพักเพื่อดูอาการโดยประมาณ 2-3 ชม. เนื่องจากอาจมึนยาสลบและยาชา และที่สำคัญ!
    ควรมีคนมาด้วยนะคะ ห้ามขับรถกลับบ้านเองเด็ดขาด!
  • สังเกตแผลผ่าตัดอยู่เสมอ : โดยมากแผลจะแห้งและหายเป็นปกติ 4-5 วัน หากมีเลือดซึมหรืออักเสบควรรีบกลับมาพบแพทย์ทันที! ทั้งนี้ ควรระวังไม่ให้แผลถูกน้ำใน 5 วันนี้นะคะ
  • งดทำกิจกรรมที่ออกแรงเยอะ : เช่น การเล่นกีฬา, การออกกำลังกายกลางแจ้ง, การยกของหนัก ประมาณ 1 สัปดาห์ เพื่อป้องกันแผลกระทบกระเทือน
  • งดการมีเพศสัมพันธ์อย่างน้อย 1 สัปดาห์หรือจนกว่าแผลจะเริ่มเข้าที่
  • หากมีอาการแทรกซ้อน เช่น การตกเลือด, ปวดท้องมากผิดปกติ, ไข้สูง, เลือดออกบริเวณแผลผ่าตัดจำนวนมาก, คลื่นไส้ อาเจียน ควรรีบพบแพทย์เพื่อตรวจอย่างละเอียดทันที
  • ควรไปตรวจร่างกายติดตามอาการตามแพทย์นัดอยู่เสมอ
bleeding after hysterectomy
Pynpy’ Tips :

หากหลัง “การทำหมันหญิง” มีภาวะขาดประจำเดือน ควรรีบตรวจการตั้งครรภ์ทันที เนื่องจากอาจเกิดความเสี่ยงตั้งครรภ์นอกมดลูกขึ้นได้ 

6.ความเสี่ยงและผลข้างเคียง

อ่านมาถึงตรงนี้ เรียกได้ว่าเป็นการทำความรู้จัก “การทำหมันหญิง” ได้มากขึ้นจริง ๆ ใช่ไหมล่ะคะ อีกหนึ่งหัวข้อที่ Pynpy’
ตั้งใจอยากนำเสนอคือความเสี่ยงและผลข้างเคียงที่ควรรู้ เพราะเราจะได้รับมือ และเตรียมความพร้อม! โดยมีลักษณะดังนี้

  • “อาการเลือดออกหลังทำหมัน” เลือดจะออกช่องคลอดในช่วง 1-2 สัปดาห์ ไม่มากและไม่มีลิ่มเลือด อีกทั้งจะค่อยๆจางไปเอง
  • อาการตกขาว, เกร็งหน้าท้อง, ท้องขนาดใหญ่ขึ้น, เจ็บบริเวณบ่า ประมาณ 2-4 วัน และจะค่อยๆหายไปเอง
  • ความเสี่ยงจากการติดเชื้อระบบภายใน อาทิ การติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน, การติดเชื้อจากแผลผ่าตัด, เลือดออกภายในช่องท้องจากการกระทบกระเทือน เป็นต้น
bleeding after hysterectomy

แม้ความเสี่ยงและผลข้างเคียงอาจจะมีบ้างตามธรรมชาติของการทำหมันหญิงและการผ่าตัด แต่เพื่อน ๆ ไม่ต้องกังวลไปน๊า
เมื่อวันนั้นมาถึง…

Pynpy’ ขออยู่เคียงข้างและเป็นกำลังใจให้เพื่อน ๆ ฟื้นตัวไวแบบไร้กังวล!

สบายใจ หายห่วง! แม้มี “อาการเลือดออกหลังทำหมัน” ในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก เพียงสวมใส่กางเกงในอนามัย Pynpy’
ก็สบายตัวแห้งสบายตลอดวัน ด้วยนวัตกรรมสิ่งทอ เอกสิทธิ์เฉพาะที่มีแค่ Pynpy’ ที่เดียว! พร้อมเทคโนโลยีพิเศษ ช่วยเรื่องระบายอากาศและป้องกันการซึมเปื้อนได้เต็มที่ในเวลาเดียวกัน

bleeding after hysterectomy

แถมยังรองรับ กักเก็บของเหลวได้แบบไม่ไหลย้อนกลับ! สวมใส่ได้ยาวนานถึง 12 ชม. เรียกได้ว่าตอบโจทย์เพื่อน ๆ ที่เพิ่งทำหมันหญิงเสร็จแล้วสุด ๆ
สนใจกดสั่งซื้อกางเกงในอนามัย Pynpy’ ได้ที่นี่เล้ย!

เคล็ดลับฉบับง่ายๆ ดูแล Pynpy’ นวัตกรรม กางเกงในอนามัยยังไง ให้อยู่ได้นานเว่อร์
เคล็ดลับฉบับง่ายๆ ดูแล Pynpy’ นวัตกรรม กางเกงในอนามัยยังไง ให้อยู่ได้นานเว่อร์

นอกจากนี้ยังประหยัดเวลา ดูแล รักษาได้แบบง่ายดายเพียง 3 ขั้นตอนเท่านั้น !

1.ล้าง : ล้างผ่านน้ำและบิดหมาด ๆ
2.ซัก : ซักมือหรือซักเครื่องด้วยผงซักฟอกปกติตามความสะดวก
3.ตาก : จากนั้นนำไปตากแดดให้แห้งสนิท จากนั้นนำกลับมาสวมใส่ซ้ำได้เลยค่า 😀

ปล.เพื่อรักษาคุณสมบัตินวัตกรรมของกางเกงในอนามัย Pynpy’ ให้ใช้ได้อย่างยาวนานขึ้น เพื่อน ๆ ต้องหลีกเลี่ยงการใช้สารฟอกขาว, น้ำยาปรับผ้านุ่ม และห้ามรีดด้วยความร้อน/เข้าเครื่องอบผ้าที่อุณหภูมิเกิน 40 องศาฯ น๊า 😀

ก่อนจากกัน Pynpy’ ขอส่งต่อความห่วงใยในเรื่อง “การคุมกำเนิด” ว่าเป็นสิ่งสำคัญมาก ๆ เลยน๊า หากเพื่อน ๆ คนไหนมีแนวทางการคุมกำเนิดที่น่าสนใจนอกจาก “การทำหมันหญิง” สามารถมาแบ่งปันและพูดคุยกับ Pynpy’ ผ่านช่องทาง Social Media: Facebook: Pynpy Instagram: pynpywear YouTube: pynpy Line: @pynpy และ Twitter: @pynpywear ได้เลยนะคะ สำหรับวันนี้บั๊ยบายยยค่า 😀