fbpx

Pynpy’ บอกต่อวิธีดูแลผิวหน้าให้ผิวจึ้งแม้ตอนมีเมนส์

เชื่อว่าปกติแล้วเพื่อนๆ หลายคนก็คงดูแลผิวหน้าเป็นประจำอยู่แล้วใช่ไหมคะ แต่เพื่อนๆ เคยสังเกตมั้ย ว่าเวลาประจำเดือนมา ฮอร์โมนเราจะแปรปรวน จนทำให้ผิวหน้าเราอ่อนไหวกว่าตอนปกติม๊าก มาก ทั้งผิวมันเยิ้ม รูขุมขนกว้าง สิวบนเต็มหน้า โอ๊ย! สารพัดปัญหา!!

ผู้หญิงที่กังวลกับสิว

แต่ไม่ต้องกังวลไปค่ะ เพราะวันนี้ Pynpy’ จะมาบอกต่อวิธีการดูแลผิวหน้าให้ผิวสวยจึ้งปังแบบลูกคุณหนู แม้จะเข้าสู่ช่วงวันนั้นของเดือนกันค่า

ทำไมการดูแลผิวหน้าถึงสำคัญ

เพราะจุดประสงค์ของการดูแลผิวก็คือ เพื่อคงความแข็งแรงของผิวนั่นเองค่ะ หรือพูดให้เห็นภาพ ก็คือการสร้าง Skin Barrier ซึ่งเป็นกำแพงเซลล์ผิวที่เรียงตัวเป็นชั้นๆ ราวกับชั้นกำแพงที่คอยปกป้องไม่ให้สิ่งสกปรกจากภายนอกหลุดเข้ามาในชั้นผิว จนส่งผลให้สุขภาพผิวย่ำแย่ลง ดังนั้นเราจึงต้องหมั่นบำรุงผิวอย่างเหมาะสม

แต่ว่า! เนื่องจากเพราะในช่วงมีก่อนมีรอบเดือน 1 สัปดาห์ ฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) จะค่อยๆ ลดลง ในขณะที่ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน (Progesterone) และ ฮอร์โมนเทสโทสเทอโรน (Testosterone) จะมีการเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งความแปรปรวนนี้ จะทำให้ต่อมไขมันใต้ผิวหนังผลิตน้ำมันส่วนเกินออกมามากเกินไป จนก่อให้เกิดสิวอุดตัน หรือสิวอักเสบ ผุดขึ้นเต็มใบหน้าตามมา รวมถึงผิวจะอ่อนแอ และบอบบางไวต่อแดด และแบคทีเรียต่างๆ มากขึ้น

ผู้หญิงที่กังวลกับสิว

แบบนี้เรารีบมาดูกันเลยดีกว่า ว่าช่วงรอบเดือนนึง เราควรเน้นดูแลผิวกันที่จุดไหน ไปกันเลยค่า!

วิธีดูแลผิวช่วงมีรอบเดือน

อย่างที่เพื่อนๆ เข้าใจว่าในรอบเดือนนึง ฮอร์โมนของเราจะค่อนข้างเหวี่ยงขึ้นลงแบบสุดๆ Pynpy’ เลยจะมาช่วยเพื่อนๆ ปรับการดูแลและบำรุงผิวให้สอดคล้องกับปัญหาของผิวจากฮอร์โมนในช่วงนั้นๆ กันค่า

  • ช่วงที่มีประจำเดือน (วันที่ 1-7)

ช่วงนี้ฮอร์โมนเอสโทรเจน และฮอร์โมนโปรเจสเทอโรนจะต่ำลง ส่งผลให้..

– ผิวอ่อนแอ บอบบาง และไวต่อแสงแดดหรือรังสี UV มากกว่าเดิม จึงเป็นช่วงไม่ควรทดลองใช้สกินแคร์ใหม่ๆ เพราะอาจแพ้หรือเกิดการระคายเคืองได้ง่ายค่ะ ที่สำคัญต้องปกป้องผิวจากแสงแดดด้วยการหมั่นทากันแดด SPF 50+ เช้า-เย็น และระหว่างวันสม่ำเสมอด้วยนะคะ

ปฏิทินประจำเดือน
  • ช่วงหลังประจำเดือนหมด (วันที่ 8-17)

นี่คือช่วงทองของชีวิตมากค่ะ เพราะช่วงนี้ร่างกายจะฟื้นตัวเพื่อเตรียมต่อการตกไข่รอบใหม่ ด้วยการหลั่งฮอร์โมนเอสโทรเจนออกมามากที่สุด เลือดจึงไหลเวียนได้ดีขึ้น ส่งผลให้.. 

-ผิวสดใส เปล่งปลั่ง ชุ่มชื้น มีความยืดหยุ่น จึงยิ่งเหมาะที่จะใช้สกินแคร์ที่บำรุงผิวหน้าได้อย่างเข้มข้น ล้ำลึก เพื่อสร้างเกราะป้องกันให้ผิวได้แข็งแรงขึ้น

  • ช่วงกำลังจะมีประจำเดือน (วันที่ 18-28)

ช่วงนี้จะอาจจะต้องรับศึกหนักนิดหน่อยค่ะ เพราะเป็นช่วงที่ร่างกายจะใช้เวลาเตรียมตัวในการตกไข่รอบใหม่ โดยการหลั่งฮอร์โมนโปรเจสเทอโรนออกมามากขึ้น ส่งผลให้..

-ผิวมันมากกว่าเดิม จากการที่ต่อมไขมันขับน้ำมันออกมามากกว่าปกติ จนรูขุมขนอุดตัน เกิดสิวเสี้ยนได้ง่าย ดังนั้นช่วงนี้จึงต้องหมั่นทำใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทำความสะอาดผิวหน้าได้ดีอย่างล้ำลึก

-ผิวดูหมองคล้ำ แถมไวต่อแสงแดดและมลพิษ จึงเหมาะที่จะใช้สกินแคร์จำพวกไวท์เทนนิ่งและกันแดด

อย่างไรก็ตาม เพื่อนๆ ก็ควรหมั่นดูแลผิวหน้าด้วยสกินแคร์ที่เหมาะสมสม่ำเสมอ ดื่มน้ำเยอะๆ และหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพียงแค่นี้ก็ช่วยเสริมความแข็งแรงให้ผิวได้ปังๆ จึ้งๆ กันอย่างต่อเนื่องได้แล้ว

Pynpy’ Tip

หากเพื่อนๆ มีสกินแคร์เยอะจนไม่แน่ใจว่าจะเรียงลำดับยังไง งั้น Pynpy’ ขอแนะนำให้เพื่อนๆ ใช้สกินแคร์เรียงจาก Texture เนื้อเหลว > เนื้อหนักหรือเข้มข้นที่สุด เพื่อให้ผิวได้ซึมซับผลิตภัณฑ์ได้มากที่สุดค่า

รู้จักสกินแคร์ที่ไม่ควรทาด้วยกัน

ถึงการทาสกินแคร์จะเป็นเรื่องดี แต่มันก็มีสกินแคร์บางชนิดที่ไม่ควรใช้ด้วยกันอยู่ เพราะอาจเกิดผลเสียแทนผลดีได้ค่า งั้นมาดูกันดีกว่า ว่าสกินแคร์ประเภทไหนที่ไม่ควรใช้ด้วยกันอย่างแรง เริ่ม!

ภาพเปรียบเทียบ กลุ่มสกินแคร์
  • Vitamin C + AHA / Retinol : ไม่ควรใช้ร่วมกัน เพราะจะลดประสิทธิภาพในการปรับผิวให้กระจ่างใสของกันและกันนั่นเอง 
  • Vitamin C + Benzoyl Peroxide : เพราะ Vitamin C มีส่วนช่วยในการผลัดเซลล์ผิว และ Benzoyl Peroxide ช่วยรักษาสิว ขจัดน้ำมันส่วนเกินออก จึงทำให้เมื่อใช้สองตัวนี้ด้วยกัน อาจเกิดการระคายเคือง แสบ คันได้ค่า
  • Retinol + Benzoyl Peroxide : Retinol มีสรรพคุณในการผลัดเซลล์ผิวและลดเลือนริ้วรอย แน่นอนว่าพอมาเจอ Benzoyl Peroxide ที่ทำให้ผิวแห้งมากขึ้น ก็เสี่ยงทำให้ผิวเแห้งมากเกินไป จนกิดการระคายเคืองเช่นกัน
  • Salicylic + Glycolic : สองตัวแรงที่ไม่ควรใช้ด้วยกัน เพราะทั้งสองตัวนี้เน้นช่วยผลัดเซลล์ผิว แน่นอนว่าถ้าใช้ด้วยกันผิวต้องระคายเคืองมากแน่นอนเลยค่า

นอกจากนี้ เราอยากแนะนำ Youtuber จากช่อง Youtube: Sister Nan ที่ออกมาแนะนำ 4 สิ่งห้ามทำในช่วงประจำเดือน และปัญหาที่อาจเกิดบนผิวหน้าของเราชาวประจำเดือนอีกด้วย ดูกันจุกๆ ไปเล้ย

Youtuber จากช่อง Youtube: Sister Nan

แต่ว่านอกจากสกินแคร์รูทีนแล้ว เพื่อนๆ ก็สามารถมีช่วงเวลาที่ดีในช่วงที่รอบเดือนมาได้ด้วยน้า เพราะ Pynpy’ มีตัวช่วยในการรับมือแบบสบายๆ ลดความกังวลใจ จากของเหลวต่างๆ อย่าง กางเกงในอนามัย Pynpy’ ที่ใช้แทนผ้าอนามัยได้เลย เพราะนอกจากผิวดีแล้ว ถ้าเรามีตัวช่วยเสริมความมั่นใจด้วยก็จะดีม๊าก มาก 

กางเกงในอนามัย Pynpy’ อีกหนึ่งความจึ้ง สุดจำเป็นในรูทีนช่วงมีเมนส์

Pynpy’ กางเกงในอนามัย นวัตกรรมใหม่ ที่ใช้แทนผ้าอนามัยได้เลย รวบรวมคุณสมบัติสุดปังและครบครันไว้ในหนึ่งตัวครบหมดแล้ว แถมยังเหมาะมากๆ ในช่วงที่ร่างกายคุณแม่หลังคลอดยังมีของเหลวคั่งค้าง และ ประจำเดือน ที่จะมาตอนไหนก็ไม่รู้ เพราะ น้อง ‘ซึมซับประจำเดือนและของเหลวได้ขั้นสุด’ ‘เก็บได้ทุกหยด’ และ ‘ไม่ไหลย้อนกลับ’ โดยที่ไม่ทำให้เกิดการอับชื้น ใส่ได้นาน 8 – 12 ชั่วโมง ยาวๆ กันไปเลยค่า

ไทรอยด์

ด้วยพลังเนื้อผ้าจากธรรมชาติ สวมใส่ได้ไม่อึดอัดแน่นอน เพราะ กางเกงในอนามัย Pynpy’ มีถึง 11 ไซซ์ ตั้งแต่ 3XS – 5XL ใส่ได้ทุกรูปร่าง ทุกเพศ ทุกวัย พร้อมด้วย มาตรฐาน OEKO-TEX ระดับสากล รวมถึงเทคโนโลยี Anti-Bacteria ที่ดีต่อสุขภาพอนามัยช่องคลอด เพราะช่วยลดการสะสมของเชื้อโรค ลดการระคายเคือง

ความยืดหยุ่นของกางเกงในอนามัย Pynpy' แบบ Daily

ทำความสะอาดก็สบาย เพียงทำ 3 ขั้นตอน ล้าง-ซัก-ตาก หลีกเลี่ยงการใช้น้ำร้อนและใช้วิธีการตากแดดให้แห้ง แทนการเข้าเครื่องอบผ้า เพื่อให้ กางเกงในอนามัย Pynpy’ มีอายุการใช้งานยาวนานกว่า 2 ปี ไปเลย!

นี่แหละค่ะ Perfect Rutine! มาสัมผัสความสบายไปด้วยกัน ด้วยการ คลิกสั่งซื้อกางเกงในอนามัย Pynpy’ กันน้า

ผู้หญิงที่มีผิวหน้าสดใส

 Pynpy’ ขอเป็นเพื่อนซี้ที่ช่วยให้เพื่อนๆ มีความสุขในทุกๆ วัน ทั้งวันธรรมดาและในช่วงวันนั้นของเดือน และหากอยากได้ทริค บทความดีๆ หรือ อยากขอคำแนะนำจากเพื่อนคนนี้อีก  ถ้าอยากได้เพื่อนที่ให้คำปรึกษาได้ ก็สามารถทักหา Pynpy’ ได้ในทุกช่องทาง Social Media ทั้ง FacebookTwitterInstagramYouTube และ Line เพื่อนคนนี้ ยินดีที่จะอยู่ข้างๆ เสมอค่า แล้วพบกันใหม่นะคะ <3