fbpx

รู้จัก Free Bleeding ปล่อยให้เมนส์ไหลตามธรรมชาติ ปราศจากผ้าอนามัย

“ฉันวิ่งพร้อมกับเลือดที่ไหลหยดลงที่ขาเพื่อผู้มีประจำเดือนที่ไม่มีผ้าอนามัยและผู้มีประจำเดือนที่แม้จะเป็นตะคริวและเจ็บปวด แต่ก็ซ่อนมันไว้และแสร้งทำเป็นว่าไม่มีอยู่จริง…ฉันวิ่งเพื่อจะบอกว่ามันมีอยู่จริง และเราเอาชนะมันอยู่ทุกวัน”

Kiran Gandhi

คำพูดข้างบนคือคำพูดของ Kiran Gandhi บัณฑิตจาก Harvard Business School ค่ะ เรื่องของเรื่องมันมีอยู่ว่าในปี 2015 เธอปล่อยให้เมนส์ไหลขณะวิ่งมาราธอนที่ลอนดอนเพราะไม่ใส่ผ้าอนามัย แต่ก็ถูกชาวเน็ตในตอนนั้นต่อต้าน แต่เธอก็หาได้แคร์ค่ะเพราะเธอมองว่าเธอกำลังทำสิ่งที่เรียกว่า Free Bleeding หรือ การ ‘ปล่อยให้เมนส์ไหลตามธรรมชาติ ปราศจาผ้าอนามัย’ เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้เหล่าผู้มีประจำเดือนที่ไม่สามารถเข้าถึงผ้าอนามัยได้ และเชียร์อัพผู้มีประจำเดือนทุกคนว่าไม่เห็นต้องอายหากมันจะเลอะ เพราะนี่คือเรื่องธรรมชาติ

การปล่อยให้เมนส์ไหลของเธอจึงถือเป็นหนึ่งในตัวขับเคลื่อนสำคัญของขบวนการ Free Bleeding ที่ชักชวนให้ผู้มีประจำเดือนทั้งหลายปฏิเสธการสวมใส่สิ่งรองรับประจำเดือนเพื่อเรียกร้องอิสรภาพให้ร่างกาย เปลี่ยนความเข้าใจผิดเกี่ยวกับเมนส์ของสังคม และส่งเสียงไปถึงการแก้ไขกฎหมายเพื่อให้ผ้าอนามัยเป็นสวัสดิการที่ทุกคนควรได้รับ หรือไม่ก็อย่างน้อยที่สุดควรจะงดภาษีผ้าอนามัยไปนั่นเองค่ะ

ปล่อยให้เมนส์ไหลตามธรรมชาติ ปราศจากผ้าอนามัย

อ่านมาถึงตรงนี้ เพื่อนๆ คงสงสัยกันใช่มั้ยคะว่าขบวนการเคลื่อนไหวที่ว่าเกิดขึ้นได้ยังไง คนที่ปล่อยให้เมนส์ไหลตามพื้นเนี่ย จะทำไปทำไมกันนะ ใจเย็นๆ ค่ะ แล้วเดี๋ยว Pynpy’ จะเล่าให้ฟัง

เพราะเมนส์ (เคย) เป็นเรื่องสกปรก Free Bleeding จึงเกิดขึ้น

ก่อนไปทำความรู้จักขบวนการอย่างลึกซึ้ง Pynpy’ อยากพาทุกคนไปท่องประวัติศาสตร์ของเมนส์ฉบับย่อกันก่อนค่ะ

  1. ก่อนที่เมนส์จะกลายเป็นสิ่งสกปรก สมัยก่อนเมนส์เคยเป็นสิ่งมหัศจรรย์นะคะ แถมในยุคหนึ่งก็ยังมีการบันทึกว่าผู้หญิงอังกฤษก็นั่งปล่อยให้เมนส์ไหลด้วยค่ะ
  2. แต่พอถึงปลายศตวรรษที่ 19 คนก็เริ่มพูดถึงเรื่องสุขอนามัยกันมากขึ้น จึงเริ่มมีการคิดค้นผ้าอนามัยแบบสอดและสารพัดสิ่งรองรับประจำเดือน เพื่อไม่ให้เมนส์ไหลเลอะเทอะ
  3. พอถูกสอนว่าเมนส์เป็นเรื่องสกปรกที่ควรปกปิด จึงเป็นหน้าที่ของผู้มีประจำเดือนที่ต้องหาอะไรมารองรับไม่ให้เมนส์โผล่หน้าไปทักทายคนอื่น เด็กจำนวนมากจึงต้องหยุดไปโรงเรียนเพราะความเชื่อว่าต้องออกห่างจากคนอื่น บางคนที่ไม่มีเงินก็ต้องอดมื้อกินมื้อเพื่อซื้อผ้าอนามัย
ปล่อยให้เมนส์ไหลตามธรรมชาติ ปราศจากผ้าอนามัย

เริ่มเห็นมั้ยคะว่าปัญหาที่เกิดขึ้นจะต้องนำไปสู่การปลดแอกของชาวมนุษย์เมนส์ในอนาคต!

เรื่องของการปลดปล่อยเมนส์

จากข้อที่แล้ว พอเกิดปัญหาแบบนี้ ชาวมนุษย์เมนส์ก็เริ่มเรียกร้องอิสรภาพที่พึงได้ในฐานะมนุษย์คนหนึ่งค่ะ

  1. จุดสตาร์ทที่สำคัญคือในปี 1970-1980 ผู้มีประจำเดือนที่อเมริกาช็อกจากสารพิษจนเสียชีวิต เพราะใส่ผ้าอนามัยแบบสอดนานเกินไปจนติดเชื้อในกระแสเลือด จนเริ่มมีการเรียกร้องเกิดขึ้น
  2. แต่จุดที่ทำให้ไวรัลคือในปี 2004 มีคนตั้งบล็อกขึ้นเพื่อบอกถึงการ Free Bleeding ของตัวเองว่าเธอนั้นรู้สึกสบายใจที่ปล่อยให้เมนส์ไหลไปตามธรรมชาติ กระแสอินเทอร์เน็ตตอนนั้นจึงทำให้คนพูดถึงเรื่องการ ปล่อยให้เมนส์ไหลตามธรรมชาติ ปราศจากผ้าอนามัยกันมากขึ้น
  3. ในปี 2015 Kiran Gandhi ได้จุดเชื้อไฟให้กระแสนี้อีกครั้งด้วยการปล่อยให้เมนส์ไหลขณะวิ่งมาราธอน จนชาวมนุษย์เมนส์เริ่มกล้าที่จะออกมาปลดปล่อยตัวเองมากขึ้น
  4. ปัจจุบัน ถ้าเข้าไปดูแท็กในอินสตาแกรม หลายคนทีเดียวค่ะที่เริ่มถ่ายภาพตัวเองกำลังโยคะ ดูหนัง ฟังเพลง และทำกิจกรรมอื่นๆ โดยที่ไม่ได้ใส่ผ้าอนามัยและปล่อยให้ตัวเองได้ใช้ชีวิตแบบที่ควรจะเป็น
ปล่อยให้เมนส์ไหลตามธรรมชาติ ปราศจากผ้าอนามัย

และนี่ก็คือเรื่องราวการเรียกร้องอิสรภาพของผู้มีประจำเดือนตั้งแต่อดีตค่ะ ซึ่งการ Free Bleeding ก็ไม่ได้ทำไปเฉยๆ นะคะ แต่มันมีจุดประสงค์เพื่อสังคมเลยทีเดียว

แล้วเราจะ Free Bleeding กันไปทำไม?

ไหนใครอ่านมาจนถึงตรงนี้แต่ก็ยังไม่เก็ตแบบ 100 เปอร์เซ็นต์บ้างคะว่าเราจะ ปล่อยให้เมนส์ไหลตามธรรมชาติ ปราศจากผ้าอนามัย กันไปทำไม เดี๋ยว Pynpy’ จะสรุปให้ฟังค่ะ

เพื่อทำลายการตีตราประจำเดือน

ข้อนี้แหละค่ะที่ทำให้คนลุกฮือมากที่สุด

เพื่อนๆ จำกันได้มั้ยคะว่าตั้งแต่เด็ก เรามักจะถูกสอนอยู่เสมอว่าเมนส์สกปรก ทั้งที่จริงแล้วการมีเมนส์เป็นเรื่องธรรมชาติสุดๆ เลยค่ะ ซึ่งมนุษย์เมนส์สาขาประเทศไทยไม่ได้เผชิญอยู่ประเทศเดียวนะคะ จากการศึกษาพบว่าผู้มีประจำเดือนทั้งเด็กและผู้ใหญ่แถบประเทศเนปาลตะวันตกจะต้องถูกแยกตัวและห้ามสัมผัสใครในช่วงมีเมนส์เลย ขนาดในอเมริกาที่หลายคนคิดว่าสุดจะทันสมัยก็ยังพบว่ากว่า 65 เปอร์เซ็นต์ของนักเรียนเห็นด้วยว่าสังคมสอนให้พวกเขารู้สึกอายที่มีเมนส์

ปล่อยให้เมนส์ไหลตามธรรมชาติ ปราศจากผ้าอนามัย

ลดความจนประจำเดือนหรือ Period Poverty

หลายคนอาจไม่เข้าใจว่ามีคนที่จนขนาดที่ไม่สามารถซื้อผ้าอนามัยใส่ได้ด้วยเหรอ? แต่ถ้าจากการประมาณของธนาคารโลกแล้วพบว่าผู้มีประจำเดือนอย่างน้อย 500 ล้านคนทั่วโลกไม่สามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์รองรับประจำเดือนได้เลยค่ะ และกว่า 14 เปอร์เซ็นต์ของวัยเรียนในสหรัฐฯ ก็ต้องอดมื้อกินมื้อในช่วงที่เมนส์มาเชียวค่ะ

เซฟสิ่งแวดล้อม

รู้มั้ยคะว่าจากการเก็บข้อมูลของรัฐสภายุโรป พลาสติกจากผ้าอนามัย ไม่ว่าจะแบบทั่วไปหรือแบบสอดนั้นติดอยู่ในอันดับ 5 ที่พบบ่อยที่สุดในท้องทะเลเลยนะคะ!

เพื่อสุขอนามัยที่ดี

เชื่อมั้ยคะว่าเพื่อนๆ หลายคนนั้นแพ้ผ้าอนามัย บางคนอาจจะแค่คันๆ แต่บางคนก็ถึงขั้นอักเสบ เกิดฝี และต้องผ่าตัดเชียวนะคะ อีกอย่าง ถ้าบางคนมีเงินไม่มากพอที่จะเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อยๆ ก็อาจจะเกิดอาการติดเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอดได้เลยค่ะ

ปล่อยให้เมนส์ไหลตามธรรมชาติ ปราศจากผ้าอนามัย

ข้อดีของการ Free Bleeding เยอะขนาดนี้ คงมีหลายคนอยากทดลองกันบ้างแล้วใช่มั้ยล่ะคะ ตาม Pynpy’ มาเลยค่ะ

อยากจะ Free Bleeding กับเขาบ้าง ต้องเริ่มยังไง?

เอาล่ะค่ะ ไหนใครอยากลองไม่ใส่ผ้าอนามัยกันแล้วบ้างแต่ไม่รู้จะเริ่มยังไง วันนี้ Pynpy’ จะมาแนะนำขั้นตอนการ Free Bleeding ฉบับคนเพิ่งเริ่มกันค่ะ

  • เริ่มง่ายๆ ที่บ้านหรือสถานที่ที่เป็นตัวเองที่สุด เพื่อนๆ จะได้รู้สึกปลอดภัยค่ะ
  • หาผ้าหนาๆ นุ่มๆ รองกันเปื้อนเวลานั่ง เพื่อให้เราค่อยๆ ปรับตัวและยังไม่ต้องนั่งหลังขดหลังแข็งล้างคราบเลือดที่เสื้อผ้าตัวโปรดด้วยค่ะ
ปล่อยให้เมนส์ไหลตามธรรมชาติ ปราศจากผ้าอนามัย
  • ออกไปข้างนอกบ้าง ถ้ารู้สึกสบายใจที่จะออก เลือกออกไปในวันท้ายๆ ของรอบเดือนก็เวิร์กนะคะ แต่ถ้าเพื่อนๆ คนไหนมั่นใจ จะออกจากบ้านวันไหนก็ได้ค่ะ เพราะนี่คือสิทธิในร่างกายของทุกคนเลยยย
  • อย่าลืมพกชุดชั้นในและเสื้อผ้าไปเผื่อด้วยนะ ถ้ารู้สึกไม่สบายตัวเมื่อไหร่ จะได้เปลี่ยนทันที
ปล่อยให้เมนส์ไหลตามธรรมชาติ ปราศจากผ้าอนามัย
ข้อควรรู้ก่อน Free Bleeding

1. แน่นอนว่าถ้าเรา ปล่อยให้เมนส์ไหลตามธรรมชาติ ปราศจากผ้าอนามัย หรือสิ่งรองรับอื่นๆ 'คราบเลือด' ตามเสื้อผ้า พื้น หรือเฟอร์นิเจอร์ต้องมาแน่ๆ ค่ะ 
2. เมนส์เป็นพาหะนำโรคต่างๆ ได้นะคะ เช่น ไวรัสตับอักเสบซีและไวรัสตับอักเสบบี ซึ่งอยู่รอดได้นานหลายสัปดาห์เลยค่ะ เพื่อนๆ จึงต้องรักษาความสะอาดทั้งเวลาอยู่ในและนอกบ้านให้ดีเลย 
3. แม้จะไม่ต้องเปลี่ยนผ้าอนามัยแล้ว แต่ควรต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าบ่อยๆ อยู่ดีค่ะ เพราะเมื่อเมนส์สัมผัสกับอากาศมันจะกลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของแบคทีเรียได้ค่ะ

การปล่อยให้เมนส์ไหลตามธรรมชาติไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดค่ะ สิ่งที่ต้องเอาชนะจริงๆ คือใจของเรามากกว่า ส่วนใครที่ยังกล้าๆ กลัวๆ แต่อยากจะมอบอิสระให้กับตัวเองบ้าง การเลือกใช้กางเกงในอนามัย Pynpy’ ก็เป็นจุดสตาร์ทที่ดีไม่น้อยค่ะ เพราะกางเกงในอนามัย Pynpy’ นั้นรูปร่างเหมือนกางเกงในแต่ใส่แทนผ้าอนามัยได้เลย ไม่รู้สึกอึดอัด แถมยังรู้สึกเป็นอิสระจากข้อจำกัดเดิมๆ ด้วยนะคะ ว่าแต่ความปังของกางเกงในอนามัย Pynpy’ จะมีอะไรอีกบ้าง ไปดูกันเล้ย

Pynpy'

อิสรภาพจากกางเกงในอนามัย Pynpy’ ทางเลือกที่อยากให้มนุษย์เมนส์แฮปปี้กับสิ่งที่เป็น

แม้กางเกงในอนามัย Pynpy’ จะถือเป็นสิ่งรองรับประจำเดือนแบบหนึ่ง แต่เพราะกางเกงในอนามัย Pynpy’ ไม่ได้สร้างความรำคาญทั้งเรื่องผื่น เรื่องความอับชื้น ความไม่คล่องตัว แต่กลับให้อิสระกับมนุษย์เมนส์ การเลือกใช้ กางเกงในอนามัย Pynpy’ จึงเป็นทางเลือกที่ดีในการเริ่ม ปล่อยให้เมนส์ไหลตามธรรมชาติ โดยปราศจากผ้าอนามัยค่ะ ยังค่ะยัง ความปังยังไม่หมดแค่นั้น เดี๋ยว Pynpy’ ลิสต์ให้ฟังค่ะ

  • โครงสร้างเส้นใยออกแบบมาให้ซึมซับประจำเดือนเทียบเท่ากับการใส่ผ้าอนามัย 2 แผ่น แถมยังใส่ได้นาน 8-12 ชั่วโมง และมีอายุการใช้งาน 2 ปี เรียกว่าดีกับโลกและกระเป๋าตังค์สุดๆ
  • เนื้อผ้าเนียนนุ่ม มาตรฐาน OEKO-TEX แถมยังมีนวัตกรรมยับยั้งแบคทีเรีย ทำให้รู้สึกคล่องตัว แถมไม่เสี่ยงแพ้หรือติดเชื้อด้วยนะ
  • ทำความสะอาดง่ายเพียง 3 ขั้นตอน โดยไม่ต้องมานั่งคิดมากว่าถ้าจะ Free Bleeding แล้วจะลบคราบเลือดออกยังไง โอโห ชีวิตง่ายกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว

ปังขนาดนี้ต้องช้อปกันแล้วใช่มั้ยล่ะคะ แถมเพื่อนๆ ชาวเมนส์หลายคนก็มารีวิวกับเราอีกค่ะว่าช่วยให้ลืมไปเลยว่ามีเมนส์อยู่ ส่วนใครอยากพูดคุยกันก่อนก็ติดต่อ Pynpy’ ได้เลยที่ Facebook, Instagram, Twitter, Youtube หรือ Line ค่า

"หลังใช้ ชีวิตเปลี่ยนไปจริงๆ " รีวิว Pynpy' จากคุณบี
"หลังใช้ ชีวิตเปลี่ยนไปจริงๆ " รีวิว Pynpy' จากคุณบี

เมนส์เป็นเรื่องธรรมชาติ เมนส์ไม่ใช่เรื่องน่าละอาย และทุกคนมีสิทธิในร่างกายของตัวเองนะคะ Pynpy’ เอาใจช่วยเพื่อนๆ ทุกคนที่อยากลองปล่อยให้เมนส์ไหลตามธรรมชาติอย่างสุดใจค่ะ ส่วนวันหน้าจะมีเรื่องน่ารู้อะไรมาแชร์อีก ติดตามกันได้เลยน้า