“การศัลยกรรมทุกครั้งมันควรคิดให้รอบคอบ กล้าพูดได้เลยว่าเริ่มแรกมันเป็นความผิดพลาดของเราจนทำให้ผลที่ออกมามันไม่เป๊ะตามใจที่เราหวัง”
Transwomen เจ้าของช่อง Satang Bank ที่ผ่าตัดแปลงเพศ 2 ครั้ง
ยุคสมัยที่ความหลากหลายทางเพศเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องใส่ใจ การ ‘แปลงเพศ’ ทั้งจากชายเป็นหญิงและหญิงเป็นชายเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เทคโนโลยีการแปลงเพศก็ยังพัฒนาขึ้นจนผลที่ได้ก็ดีสุดๆ ภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ก็ลดน้อยลงไปมากด้วย แต่แต่แต่ การแปลงเพศเนี่ยก็ยังถือเป็นการผ่าตัดใหญ่ที่เพื่อนๆ ควรจะคิดให้รอบคอบและศึกษาข้อมูลแบบลงลึกจริงๆ ค่ะ เพราะมันกระทบถึงการใช้ชีวิตตลอดทั้งชีวิตของเพื่อนๆชนิดที่ว่า Transwomen บางคนต้องหันมาใส่ผ้าอนามัยเลยทีเดียววว
Pynpy’ จึงขอพาเพื่อนๆ ไปสำรวจ 6 ข้อน่ารู้ก่อน ‘แปลงเพศ’ สำหรับ Transwomen กันค่ะ ผลลัพธ์ที่ได้จะได้ออกมาปังปังปัง และไม่มีคำว่ารู้งี้ไม่ทำดีกว่า!
1. ก่อน ‘แปลงเพศ’ จริงจังต้องเคยทดลองเทคฮอร์โมนก่อนนะ
- เนื่องจากหลังแปลงเพศ ต้องเทคฮอร์โมนไปตลอดชีวิตเพื่อให้ร่างกายมีรูปร่างและสัดส่วนแบบผู้หญิงตามที่ต้องการ คุณหมอจะกำหนดว่าเพื่อนๆ จะต้องเคยเทคฮอร์โมนมาอย่างน้อย 1 ปีค่ะ ซึ่งเพื่อนๆ จะเทคฮอร์โมนเองไม่ด๊ายยยยเด็ดขาดนะคะ ควรจะต้องเข้ารับการประเมินกับคุณหมอก่อนค่ะ จะได้สวยด้วย แข็งแรงด้วยน้า
Did you know? ไม่ใช่แค่ Transwomen เท่านั้นที่ต้องเทคฮอร์โมนก่อนจะแปลงเพศจริง แต่ Transmen ก็ต้องลองเทคฮอร์โมนมาก่อนแล้วด้วยนะ
2. การ ‘แปลงเพศ’ มีหลายเทคนิค
- การแปลงเพศมีหลากหลายแบบมากค่ะ แต่ละแบบล้วนให้ผลลัพธ์และราคาที่ต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นแบบกราฟ แบบลำไส้ แบบเยื่อบุช่องท้อง ฯลฯ ขึ้นกับว่าเนื้อและความยาวน้องชายก่อนแปลงเป็นน้องสาวนั้นอยู่ที่เท่าไหร่
- คุณหมอแต่ละคนก็ยังมีเทคนิคการผ่าตัดและการดูแลรักษาตัวหลังผ่าตัดที่แตกต่างกันด้วยนะคะ เพื่อนๆ ควรจะศึกษาเทคนิควิธีการแต่ละอย่างให้ดีค่ะ และเข้าไปดูรีวิวของคุณหมอแต่ละท่านให้ละเอียดๆ ด้วยน้า ไม่อย่างนั้นอาจจะต้องเจ็บตัวอีกหลายครั้งเพราะผลลัพธ์ไม่ได้แบบใจหวัง
Did you know? การแปลงเพศของ Transmen ก็มีหลายรูปแบบมากๆ เช่นกันค่ะ ซึ่งแต่ละแบบจะมีผลต่อระยะเวลาการรักษาตัว ขนาดของน้องชายที่ได้ และความรู้สึกทางเพศด้วยน้า แถม Transmen ยังมีขั้นตอนที่ซับซ้อนกว่า Transwomen สุดๆ
3. ภาวะแทรกซ้อนเป็นเรื่องปกติ
- อย่างที่บอกว่านี่คือผ่าตัดใหญ่ค่ะทุกคน! มันอาจจะมีภาวะแทรกซ้อนเกิดขึ้นได้เสมอ ไม่ว่าจะเป็น
- เนื้อเยื่อบริเวณช่องคลอดและเนื้ออวัยวะเพศหญิงที่สร้างขึ้นใหม่ตาย
- ท่อปัสสาวะแคบและท่อปัสสาวะอุดตัน
- แผลทะลุหรือเนื้อเยื่อทะลุบริเวณกระเพาะปัสสาวะ ลำไส้ หรือช่องคลอด
- เลือดออกมากเกินไป
- เพื่อนๆ จึงต้องเผื่อใจไว้กับเรื่องนี้ด้วยน้า
4. อาจต้อง ‘Dilation’ หรือ ‘แยงโม’ ตลอดชีวิต
- หลังจากผ่าตัดแล้ว ไม่ใช่ว่าเราจะสวยได้เลยค่ะ เราต้อง Dilation หรือแยงโมแบบที่วงการนี้เรียกกัน
- การแยงโมคือการใช้อุปกรณ์แท่งแก้วใสขนาดต่างๆ สอดเข้าไปในช่องคลอดเพื่อให้ช่องคลอดไม่ตีบแคบและมีเพศสัมพันธ์ได้ปกติค่ะ
- 2 ปีแรกของการผ่าตัด เพื่อนๆ ควรจะแยงโมตามตารางของคุณหมออย่างเคร่งครัดนะคะ แต่รู้มั้ยคะว่าบางคนก็อาจจะต้องแยงโมตลอดชีวิตค่ะ!
5. ปวดฉี่ง่าย ฉี่เล็ดเป็นเรื่องปกติ
- นอกจากภาวะแทรกซ้อนและการดูแลตัวเองหลังผ่าตัดที่ซับซ้อน เพื่อนๆ อาจจะปวดฉี่ง่ายขึ้น เพราะปกติผู้หญิงจะมีท่อปัสสาวะสั้นกว่าผู้ชาย เมื่อแปลงเพศจึงต้องตัดท่อปัสสาวะให้สั้นลงค่ะ จึงอาจเกิดปัญหาปัสสาวะเล็ดได้ นี่ก็เป็นอีกปัญหาหนึ่งที่หลายคนรำคาญใจ
6. หลัง ‘แปลงเพศ’ ต้องฝึกใช้ผ้าอนามัยแม้จะไม่มีประจำเดือน!
- อย่างที่บอกว่าหลังผ่าตัดมันจะปวดมว้ากกกกกก และอาจจะมีภาวะแทรกซ้อน เลือดและน้ำเหลืองที่ออกเยอะอยู่แล้ว ก็จะออกเยอะกว่าเดิมได้เลยค่ะ สัปดาห์ที่ 1-3 จึงควรใส่ผ้าอนามัยไว้ตลอดเวลา เรียกว่าอะไรที่ไม่เคยทำก็ได้มาทำกันตอนนี้แหละ
- แต่แต่แต่ หลังจากผ่าตัดแล้ว ทุกคนต้อง Dilation เสมอๆ และใช้เจลหล่อลื่นร่วมด้วยใช่มั้ยคะ ถ้าสวนล้างออกมาไม่หมด ก็อาจจะมีเยื่อเมือกออกมาคล้ายกับเวลาที่ผู้หญิงตกขาว คุณ Satang Bank ก็เคยบอกว่าต้องใส่ผ้าอนามัยไปเรียนทุกวันจนเข้าใจผู้หญิงที่ต้องใส่ผ้าอนามัยทุกเดือนเลยทีเดียว
ผ่าตัดก็เจ็บตัวมากพอแล้ว ยังต้องทนผ้าอนามัยชิ้นใหญ่เป้งมาเสียดสีขาอยู่นั่นแหละ การเลือกใช้กางเกงในอนามัย Pynpy’ อาจจะช่วยให้การแปลงเพศของทุกคนแฮปปี้ขึ้นได้นะคะ ว่าแต่กางเกงในอนามัย Pynpy’ จะช่วยทุกคนมากกว่านี้ได้ยังไงบ้าง ไปดูกันเล้ย
จะดีกว่ามั้ยถ้ากางเกงในอนามัย Pynpy’ ช่วยให้การแปลงเพศแฮปปี้
เพื่อนๆ รู้มั้ยคะว่ากางเกงในอนามัย Pynpy’ ไม่ได้ออกแบบมาสำหรับเพศใดเพศหนึ่งเท่านั้นนะคะ แต่ออกแบบมาให้ตอบโจทย์คนทุกเพศ ทุกวัยเลยค่ะ ไม่ว่าจะผู้สูงอายุ คุณแม่ตั้งครรภ์หรือเพื่อนๆ Transwomen ที่ประสบปัญหาหลังผ่าตัด
- ซึมซับได้เทียบเท่าผ้าอนามัย 2 แผ่น เพื่อนๆ Transwomen จึงใส่กางเกงในอนามัย Pynpy’ แทนผ้าอนามัยเพื่อซับเลือดหลังการผ่าตัดได้เลยค่ะ ลดปัญหาผ้าอนามัยถูขาไปเลย!
- เลือกใช้ผ้ามาตรฐาน OEKO-TEX แถมยังมีนวัตกรรมแอนตี้แบคทีเรีย เพื่อนๆ ที่เพิ่งผ่าตัดซึ่งแพ้ง่าย แถมยังเซนซิทีฟสุดๆ ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะคัน ไม่สบายตัว หรือติดเชื้อเลยค่ะ
- ใส่ได้นาน 8-12 ชั่วโมง ไม่ว่าจะเพิ่งแยงโมมาหมาดๆ หรือปวดฉี่บ่อยขึ้นก็ไม่ต้องกังวลจนหมดความมั่นใจ แค่ใส่กางเกงในอนามัย Pynpy’ ก็ลืมเรื่องตกขาวและปัสสาวะเล็ดได้ทั้งวัน
- มีมากถึง 11 ไซส์ จะตัวเล็ก ตัวใหญ่ สะโพกผาย หรือร่างกายยังไม่เป็นหญิงเต็มที่ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะใส่ไม่ได้เลย
- ซักทำความสะอาดง่ายเพียง 3 ขั้นตอน เลือดออกมาเยอะแค่ไหนก็ไม่ต้องกลัววว
ถ้าเพื่อนๆ ที่เตรียมตัวจะเข้ารับการผ่าตัดสนใจและอยากชิตแชตถึงวิธีการใช้แบบลงลึกกว่านี้ก็ทักมาคุยกันได้ทั้งช่องทาง Facebook, Instagram, Twitter, Youtube หรือ Line ก็ได้น้าหรือถ้าใครอยากใช้เดี๋ยวนี้! ก็เข้าไปช้อปที่เว็บไซต์ได้เล้ยยยย
6 ข้อควรรู้ที่ Pynpy’ เล่าไปไม่ได้เป็นเรื่องที่เอามาขู่น้า แต่อยากให้เพื่อนๆ แปลงเพศแบบแฮปปี้ ถ้าเราหาข้อมูลดีๆ ซะอย่าง ท้ายที่สุด ผลลัพธ์ที่ออกมาก็จะทำให้เพื่อนๆ มั่นใจกับตัวเองมากขึ้นนะคะ ว่าแต่รอบหน้า Pynpy’ จะมาแชร์อะไรให้ฟังกันอีก รอติดตามกันน้า