‘โอ๊ยยยยย คันยุบยิบอีกแล้ว ขนาดทำความสะอาดเป็นอย่างดีแล้ว ทำไมยังคันอยู่อีกล่ะ?’
อาการคันอวัยวะเพศหญิงภายนอก นับว่าเป็นปัญหาหลักๆ ของพวกเราทุกคนเลยล่ะ นอกจากจะน่ารำคาญแล้ว ยังส่งผลต่อชีวิตประจำวันของเราอีก! จะทำอะไรก็ไม่สะดวก ต้องเดินบิดไปบิดมา จะเกาก็ไม่ได้ ไม่สบายตัวเอาซะเลย แต่ก็ต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้ากันไปก่อน
‘เฮ้ออออออ แล้วมันแก้ยังไงได้บ้างล่ะ’
ไม่ต้องถอนหายใจและหยุดเกากันก่อนค่ะทุกคน! วันนี้ Pynpy’ มาพร้อมทางออกสำหรับการบรรเทาอาการคันของทุกคนค่ะ แต่ก่อนที่เราจะแก้อาการคันกัน เรามาทำความรู้จักอาการเจ้าปัญหานี้ให้ดียิ่งขึ้นกันก่อนดีกว่า
คันอวัยวะเพศหญิงภายนอก คืออะไร? รับมือยังไง? | Pynpy’
อาการคันอวัยวะเพศหญิงภายนอก คืออะไรกันนะ?
บอกก่อนเลยว่าไม่ต้องแพนิกกัน เพราะอาการคันเหล่านี้ไม่ใช่โรคร้ายน่ากลัวชวนให้เพื่อนๆ กังวลขนาดนั้น แต่เป็นการอักเสบของผิวหนังด้านนอกของอวัยวะเพศ โดยอาการระคายเคืองเหล่านี้เกิดขึ้นได้บ่อยๆค่ะ เพราะบริเวณผิวหนังด้านนอกของจิมินั้น เป็นจุดบอบบาง อ่อนไหว ไวต่อการระคายเคืองเป็นพิเศษ เราจึงต้องดูแลน้องให้ดีๆ
แล้วอาการคันภายนอกของจิมิ เกิดขึ้นกับใครได้บ้าง?
เกิดขึ้นได้กับทุกคนทุกวัยเลยค่ะ ถือว่าเป็นเรื่องปกติสุดๆ โดยเฉพาะน้องๆ ที่ยังไม่เข้าสู่ช่วงวัยรุ่น และ เพื่อนๆ ที่อยู่ในวัยใกล้หมดประจำเดือน เพราะมีระดับเอสโตรเจนที่ต่ำและผิวหนังด้านนอกที่แห้งและบางนั่นเองค่ะ
ต้นตออาการคันอวัยวะเพศหญิงภายนอก คืออะไร?
1. การติดเชื้อในช่องคลอด จากการใช้ชีวิตประจำวัน
ในช่องคลอดของเรามี Candida ซึ่งเป็นยีสต์ชนิดหนึ่ง และเมื่อเจ้ายีสต์ตัวนี้เพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ อาจทำให้จิมิของเราติดเชื้อได้ค่ะ นอกจากอาการคันแล้ว บางคนอาจมีอาการเจ็บแสบ และ ผื่นแดงที่ผิวหนังภายนอกของอวัยวะเพศได้ค่ะ แต่ไม่ต้องวิตกไปนะคะ เรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องปกติของมนุษย์เรามากๆ เพราะเกิดขึ้นกับผู้หญิงมากกว่า 1 ล้านคนในสหรัฐอเมริกาในแต่ละปีเลยล่ะ
แต่จริงๆ ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่อาจทำให้เพื่อนๆ ติดเชื้อในช่องคลอดได้ด้วยเหมือนกันนะคะ เช่นการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันหรือไม่รักษาความสะอาดในช่วงบรรเลงเพลงรัก หรือไม่ทำความสะอาดและรักษาความสะอาดของน้องจิมิในช่วงที่เป็นประจำเดือนก็ทำให้เกิดอาการคันได้เหมือนกันค่ะ
2. ผิวน้องสาวดันแพ้สารเคมี จากผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับจุดซ่อนเร้น
ผิวหนังด้านนอกของน้องสาวเรา ค่อนข้างไวต่อสารเคมีต่างๆ ที่มาในรูปแบบ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดจุดซ่อนเร้น หรือ ผ้าอนามัย และเมื่อน้องโดนสารเคมีเหล่านี้ อาจเกิดอาการระคายเคืองได้ ไม่ว่าจะเป็นอาการคัน หรือ ผื่นแดงก็ตาม นอกจากนี้ การแว๊กซ์ขน หรือ โกนขน ก็ทำให้เกิดอาการคัน และ มีตุ่มขึ้นได้เช่นกัน
3. ปรสิตตัวร้ายมาเยี่ยมเยือนที่บริเวณขนอวัยวะเพศ
โลน คืออะไรงั้นเหรอคะ? เหาที่ขนอวัยวะเพศเราไงคะ โอ๊ะ! ไม่น่าเชื่อเลยใช่ไหมล่ะคะว่า เราจะมีเหาตรงนั้น เจ้าเหาสุดแสบมีหน้าตาเหมือนปูตัวเล็กๆ ซึ่งอาจติดมาจากการมีเพศสัมพันธ์ หรือ ใช้เสื้อผ้า ผ้าเช็ดตัวกับคนอื่นที่มีเหา
นอกจากเจ้าเหาแล้ว บริเวณขนเรายังมี ตัวหิด ซึ่งมักจะฝังตัวลงใต้ผิวหนังเพื่อวางไข่ เพื่อนๆ บางคนเลยคันคะเยอบริเวณขน หรือ คันตอนกลางคืนไงคะ
4. ภาวะผิวหนังอักเสบเรื้อรัง โดยไม่ทราบสาเหตุ
ภาวะอักเสบของผิวหนังส่งผลกระทบต่อส่วนอื่นๆ ของร่างกาย พบได้บ่อยในเพื่อนๆ ที่หมดประจำเดือน ทำให้ผิวหนังบางลง และ อาจทำให้เกิดอาการคัน เจ็บปวด รวมถึงเป็นแผลพุพองนั่นเอง
อาการคันภายนอกของน้องสาว ต้องถึงขั้นไหน ถึงควรไปพบแพทย์?
ในหลายๆ กรณีแล้ว อาการคันมักจะไม่ร้ายแรงมาก แต่ถ้าอาการคันอวัยวะเพศหญิงภายนอกของเพื่อนๆ รุนแรงขนาดรบกวนชีวิตประจำวันหรือการนอน มีแผลหรือผิวหนังถลอก หรือมีผื่นลุกลาม เราแนะนำให้ไปหาคุณหมอเฉพาะทางนะคะ การรักษาจะช่วยให้เพื่อนๆ คันน้อยลง และใช้ชีวิตอย่างสะดวกสบายมากขึ้น
นอกจากนี้ เพื่อนๆ ควรพบคุณหมอ หากมีอาการคันมากกว่า 1 สัปดาห์ หรือ มีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น แผลพุพอง ปวดบริเวณอวัยวะเพศ อวัยวะเพศแดงหรือบวม ตกขาวผิดปกติ และ ปัสสาวะลำบาก
Pynpy’ Tips:
Pynpy’ แนะนำนะคะ สำหรับใครที่มีคู่รักที่มีอาการคันช่วงล่างคล้ายๆ กัน หรือในช่วงเวลาที่ใกล้เคียงกัน เนื่องจากการมีเพศสัมพันธ์ (โดยป้องกันหรือไม่ป้องกันก็แล้วแต่) ควรพาคู่รักไปพบแพทย์เพื่อปรึกษาด้วยเช่นกันนะคะ เป็นวิธีที่ทำให้ทั้งเพื่อนๆ และคู่รักมีความตระหนักและเรียนรู้วิธีแก้ไขไปพร้อมๆ กันได้เป็นอย่างดีค่ะ เผลอ คุณหมออาจะแนะนำวิธี Safe Sex ที่จะทำให้การบรรเลงเพลงรักของเพื่อนๆ ในอนาคตไม่มีปัญหาการคันหรือความระคายเคืองมาเกี่ยวข้องแล้วอีกก็ได้น้าาา ~
อาการคันผิวหนังภายนอกของจิมิ บรรเทาได้อย่างไรบ้าง?
ก่อนที่จะพบคุณหมอ ขั้นตอนแรกที่เพื่อนๆ ควรทำก็คือ หยุดเกา! ยับยั้งเจ้ามือแสนซนไว้ก่อนค่ะ อาการจะได้ไม่แย่ลง หยุดเกากันแล้วใช่ไหมคะ? ไปต่อกันเลย!
สิ่งที่ควรทำที่สุดคือ การรักษาความสะอาดให้ดีนั่นเองค่ะ หลังจากล้างน้องแล้ว ควรซับให้แห้งจากด้านหน้าไปด้านหลัง อย่าปล่อยให้น้องเปียก ไม่งั้นจะเกิดการอับชื้นได้นะคะ และหากเป็นประจำเดือน ก็ควรเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อยๆ และล้างน้องทุกครั้งหลังเข้าห้องน้ำ เพื่อป้องกันเชื้อรา
นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่เพื่อนๆ อาจจะแพ้ไปก่อนนะคะ แต่ถ้าหยุดใช้ไม่ได้จริงๆ แนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนและไม่ใส่น้ำหอมนะคะ
นอกจากจะใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่อ่อนโยนต่อน้องจิมิของเราแล้ว การเลือกใส่กางเกงในที่ไม่คับแน่น และ ระบายอากาศได้อย่างดี เช่น Pynpy’ กางเกงในอนามัยที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ก็มีความสำคัญต่อการบรรเทาอาการคันเป็นอย่างมาก
ให้กางเกงในอนามัย Pynpy’ เป็นฮีโร่ช่วยบรรเทาอาการคันภายนอกของน้องจิมิ!
เพราะเราให้ความสำคัญต่อความสบาย กางเกงในอนามัย Pynpy’ ที่สามารถใส่แทนผ้าอนามัยได้เลย จึงผลิตขึ้นมาด้วยวัสดุที่นุ่มสบาย และ เหมาะสมต่อสภาพแวดล้อมของประเทศไทย จะร้อน จะอับชื้นแค่ไหน ก็ไม่ต้องกังวล! เพราะน้องระบายอากาศได้ยอดเยี่ยมด้วยผ้าฝ้ายที่อ่อนโยนต่อผิว
ยิ่งไปกว่านั้น น้องยังทำหน้าที่หลักของตัวเองได้ดีเวอร์ จะตกขาว หรือ ประจำเดือนมามากก็เอาอยู่! เพราะบริเวณกักเก็บประจำเดือนสร้างขึ้นด้วยผ้าฝ้ายผสมเส้นใยไผ่ ซึ่งมีคุณสมบัติซึมซับเร็ว แห้งไว ให้ความรู้สึกเหมือนใส่กางเกงในทั่วไป ไร้ความเหนอะหนะ แถมยังใส่ได้นานถึง 8-12 ชั่วโมง
ไร้ความอับชื้น และ อ่อนโยนต่อผิวขนาดนี้ เพื่อนๆ โบกมือลาอาการคันคะเยอไปได้เลย!
‘ใส่ตั้ง 8 ชั่วโมงจะไม่ทำให้คันกว่าเดิมเหรอ?’
กางเกงในอนามัย Pynpy’ แตกต่างจากกางเกงในทั่วไปตรงที่มีนวัตกรรม Anti-Bacteria ป้องกันการเจริญเติบโตของแบคทีเรียในเส้นใย แถมยังไม่ผ่านการเคลือบสารบนผ้าอีก จึงไม่มีสารตกค้าง และดีต่อสุขอนามัยอย่างแน่นอน! นอกจากวัสดุที่มีคุณภาพ และ นวัตกรรมสุดปังแล้ว Pynpy’ ยังได้รับมาตรฐาน OEKO-TEX ซึ่งเป็นที่ยอมรับระดับโลกอีกด้วยน้า
นอกจากความสบายแล้ว เรายังให้ความสำคัญต่อ Inclusivity หรือ การเปิดให้ทุกคนเข้าถึงได้ อีกด้วย กางเกงในอนามัยของเราจึงมีถึง 11 ไซส์ เพื่อให้ครอบคลุมทุกสรีระของเพื่อนๆ นั่นเอง หากอยากทำความรู้จักน้องผ่านผู้ใช้จริงสามารถอ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ด้านล่างนี้ หรือจะคลิก ที่นี่ เลยก็ได้ค่า
ก่อนจากกัน ขอให้เพื่อนๆ หายขาดจากอาการคันสุดน่ารำคาญเร็วๆ นะคะ หรือ ถ้าไม่ดีขึ้นยังไง อย่าลืมไปพบคุณหมอน้า
ถ้าชอบบทความสุขภาพแบบนี้ อย่าลืมติดตามพวกเราทาง Facebook, Youtube, Twitter, Instagram, และ LINE นะคะ แล้วพวกเราจะนำความรู้เกี่ยวกับร่างกายของเรามาฝากเพื่อนๆ อีกค่ะ