ตกเลือดหลังคลอด… ภาวะอันตรายที่คุณมัมทั้งหลายควรรู้!

กว่าจะเป็นแม่คนได้นั้น Pynpy’ บอกได้เลยค่ะ ว่าไม่มีขั้นตอนไหนที่ง่ายเลยสักขั้นตอนเดียว 😰 ไม่ว่าจะเป็นตั้งแต่การมีเบบี๋มาเติบโตอยู่ในท้อง จนกระทั่งหลังคลอดที่เหล่าคุณแม่ก็อาจมีโอกาสที่จะต้องเผชิญกับ ภาวะตกเลือดหลังคลอด ภาวะอันตรายที่อาจเกิดขึ้นหลังจากที่คุณแม่ทำการคลอดน้องๆ เบบี๋เรียบร้อยแล้ว ซึ่งภาวะนี้เนี่ย ก็ยังมีทั้งแบบ เกิดขึ้นแบบเฉียบพลัน และ เกิดขึ้นภายหลัง ได้ด้วยนะคะ 🩸

ถึงแม้ว่า ภาวะตกเลือดหลังคลอด จะไม่ใช่ภาวะหรือสิ่งที่เราสามารถป้องกันล่วงหน้าเพื่อไม่ให้มันเกิดขึ้นได้ แต่สิ่งที่เหล่าคุณแม่และผู้ดูแลสามารถทำได้ในขณะนี้เลยก็คือ การทำความรู้จักกับภาวะตกเลือดหลังคลอด ค่ะ! 🧐 เพราะเมื่อเรารู้ว่าภาวะนี้คืออะไร เกิดขึ้นยังไงได้บ้าง และมีวิธีการดูแลหลังจากภาวะนี้เกิดขึ้นแล้วอย่างไรได้บ้าง เมื่อถึงเวลาจริง เราก็จะสามารถรับมือได้อย่างไม่ตื่นตระหนกยังไงล่ะคะ 🙌🏻

โดยข้อมูลที่เพื่อนๆ และเหล่าคุณแม่กำลังจะได้รับต่อไปนี้ Pynpy’ ย่อยและสรุปมาให้แล้ว รับประกันว่าเข้าใจง่ายแน่นอนค่า!~ 💖

รู้จักกับ ภาวะตกเลือดหลังคลอด

ภาวะตกเลือดหลังคลอด หรือ Postpartum Hemorrhage คือภาวะที่คุณแม่เสียเลือดมากเกิน 1000 ml หลังจากที่คลอดเบบี๋และรกออกมาเรียบร้อยแล้ว โดยภาวะนี้สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 แบบด้วยกัน นั่นก็คือ ภาวะตกเลือดหลังคลอดแบบเฉียบพลัน และ ภาวะตกเลือดหลังคลอดในภายหลัง ค่ะ 🤰🏻

A Postpartum Hemorrhage happens to about 1 to 5 out of 100 women, so it is not an incredibly high statistic but it is still something you will face. A Postpartum Hemorrhage could happen after birth until 12 weeks after birth when a mother is losing too much blood and begins showing symptoms of having too much blood loss.

Bridget Teyler, Lamaze Childbirth Educator

ซึ่งภาวะตกเลือดหลังคลอดทั้ง 2 แบบนี้ ก็จะมีจุดแตกต่างกันอยู่ที่ เวลาในการเกิดภาวะ ค่ะ ⏰ โดย ภาวะตกเลือดหลังคลอดแบบฉับพลัน จะเกิดขึ้นกับคุณแม่ทันทีภายในเวลา 24 ชั่วโมงหลังคลอด ในขณะที่ ภาวะตกเลือดหลังคลอดในภายหลัง จะเกิดขึ้นหลังจากที่คุณแม่คลอดเบบี๋ไปแล้ว 24 ชั่วโมง จนถึง 12 สัปดาห์หลังคลอดเลยค่ะ

เมื่อเวลาในการเกิดภาวะแตกต่างกัน ทำให้ภาวะที่คุณแม่และผู้ดูแลควรใส่ใจและเฝ้าระวังเป็นพิเศษนั่นก็คือ ภาวะตกเลือดหลังคลอดในภายหลัง นั่นเองค่ะ เพราะ ภาวะตกเลือดหลังคลอดแบบฉับพลัน เวลาในการเกิดมักจะเป็นเวลาที่คุณแม่ยังพักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาลและอยู่ในความดูแลของแพทย์ การเกิดภาวะตกเลือดหลังคลอดแบบฉับพลันจึงไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัวเท่าไรนัก แตกต่างจาก ภาวะตกเลือดหลังคลอดในภายหลัง ที่อาจเกิดขึ้นหลังจากที่คุณแม่ออกจากโรงพยาบาลไปแล้ว และกำลังพักฟื้นอยู่ที่บ้านได้ค่ะ 🏡

แต่ไม่ต้องกังวลไป เพราะแน่นอนว่าวันนี้ Pynpy’ มี Tips ดีๆ สำหรับการดูแลตัวเองเมื่อมีภาวะตกเลือดหลังคลอดมาฝากอยู่แล้วค่ะ 🫶🏻💖 แต่ก่อนที่เราจะไปดู Tips ต่างๆ ที่ Pynpy’ เอามาฝากนั้น เรามาดูที่มาและสาเหตุของการเกิดภาวะนี้กันก่อนดีกว่าค่ะ~

Get to Know ที่มาของภาวะตกเลือดหลังคลอด

ที่มาและสาเหตุของการเกิด ภาวะตกเลือดหลังคลอด นั้นสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ ตามประเภทของภาวะตกเลือดหลังคลอด นั่นก็คือ ภาวะตกเลือดหลังคลอดเฉียบพลัน และ ภาวะตกเลือดหลังคลอดในภายหลัง ค่ะ เพราะเมื่อภาวะแตกต่างกัน สาเหตุที่เกิดภาวะเหล่านั้นก็แตกต่างกันออกไปด้วยนั่นเองค่ะ 🧐

ภาวะตกเลือดหลังคลอดเฉียบพลัน มีที่มาและสาเหตุมาจากหลากหลายสิ่งด้วยกันค่ะ ไม่ว่าจะเป็น กล้ามเนื้อมดลูกหดรัดตัวไม่ดี, การฉีกขาดของช่องทางในการคลอด เช่น ปากมดลูก หรือ ช่องคลอด, การมีเศษรกหรือเยื่อหุ้มทารกค้างในโพรงมดลูก หรือ การแข็งตัวของเลือดที่ผิดปกติ

ในขณะที่ สาเหตุของการเกิด ภาวะตกเลือดหลังคลอดในภายหลัง เกิดมาจาก 2 สาเหตุหลักๆ เท่านั้น นั่นก็คือ การติดเชื้อ และ การมีเศษรกหรือเยื่อหุ้มทารกค้างในโพรงมดลูก แต่ถึงแม้ว่าภาวะนี้จะเกิดมาจากแค่ 2 สาเหตุ แต่กลับเป็นภาวะที่คุณแม่และผู้ดูแลกลับควรเฝ้าระวังภาวะนี้ มากกว่าภาวะตกเลือดหลังคลอดเฉียบพลัน เพราะภาวะตกเลือดหลังคลอดในภายหลัง มักจะเกิดขึ้นในตอนที่คุณแม่ต้องกลับมาดูแลตัวเองที่บ้าน และไม่ได้อยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์แล้วนั่นเองค่ะ 😰

ฟังแบบนี้อาจจะดูน่ากลัว แต่จริงๆ แล้วการดูแลตัวเองและเฝ้าสังเกตการเกิดภาวะตกเลือดหลังคลอดทั้ง 2 แบบนั้นไม่ได้ยากอย่างที่คิดเลยน้า~ ถ้าไม่เชื่อ ไปดู Tips การดูแลตัวเองที่ Pynpy’ เอามาฝากได้เลย บอกเลยว่าง่ายสุดๆ! 🤩

เคล็ด(ไม่)ลับ กับวิธีดูแลตัวเองเมื่อมีภาวะตกเลือดหลังคลอด

หากเป็นภาวะตกเลือดหลังคลอดเฉียบพลัน วิธีการสังเกตและดูแลนั้นไม่ยากเลยค่ะ เพราะภาวะนี้มักจะเกิดขึ้นตอนคุณแม่ยังคงอยู่ภายใต้การดูแลและรักษาตัวของแพทย์ที่โรงพยาบาล ขอเพียงแค่คุณแม่สังเกตตัวเองว่า มีเลือดออกทางช่องคลอดมากผิดปกติ และเลือดมีลักษณะเป็นลิ่มหรือไม่ และ มีอาการหน้ามืด รู้สึกวิงเวียนคล้ายจะเป็นลมหรือไม่ หากมีอาการเหล่านี้ ก็ควรรีบแจ้งแพทย์หรือพยาบาลที่คอยดูแลอยู่ทันทีค่ะ 👩🏻‍⚕️

ในขณะที่ ภาวะตกเลือดหลังคลอดในภายหลัง อาจจะต้องอาศัยการเฝ้าระวังและดูแลตัวเองที่ละเอียดและยิบย่อยกว่าเล็กน้อยค่ะ โดยคุณแม่อาจจะมีอาการมีไข้ ปวดท้องน้อย ปวดมดลูก น้ำคาวปลามีสีแดงสด หรือหากเป็นภาวะตกเลือดหลังคลอดในภายหลังที่มีสาเหตุมาจากการติดเชื้อหรือมีเศษรกค้างในโพรงมดลูก คุณแม่ก็อาจจะมีเลือดไหลออกมาจากน้องจิ๊มิโกะในปริมาณเล็กๆ น้อยๆ แล้วค่อยๆ มีปริมาณเพิ่มขึ้นค่ะ 🩸

หากคุณแม่คนไหนมีอาการแบบที่ Pynpy’ ว่ามา ควรจะรีบไปพบแพทย์เพื่อรับคำปรึกษาและการรักษาโดยทันทีค่ะ ไม่ควรปล่อยจนเสียเลือดเป็นปริมาณมากโดยเด็ดขาดเลยนะคะ ❌ เพราะการเสียเลือดในปริมาณมาก อาจส่งผลให้คุณแม่มีภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ ร่วมด้วยอีกด้วยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นอาการอ่อนเพลีย ไม่มีน้ำนมพอจะมอบให้เบบี๋ ความดันโลหิตต่ำ หรือหากแย่มากๆ คุณแม่ก็อาจจะเกิดอาการไตวาย เลือดไม่แข็งตัว และเสียชีวิตได้เลยค่ะ 😱

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ทั้งอาการเลือดไหลจากน้องจิ๊มิโกะและการมีน้ำคาวปลา นั้นก็เป็นอาการปกติที่อาจเกิดขึ้นได้หลังคลอดค่ะ หากปรึกษาคุณหมอแล้วว่าอาการเหล่านี้ไม่ใช่ภาวะตกเลือดหลังคลอดแต่อย่างใด สิ่งที่ควรทำในสเต็ปต่อไป นั่นก็คือการเลือกใช้ ผลิตภัณฑ์อนามัย ที่สามารถดูดซึมของเหลวได้ดี และอ่อนโยนต่อน้องจิ๊มิโกะ อย่าง การเลือกใส่ กางเกงในอนามัย Pynpy’ นั่นเองค่า 🥳

ไม่ใช่แฟน แต่ก็ดูแลได้นะ! กางเกงในอนามัย Pynpy’ ไอเท็มที่ใช่ของเหล่าคุณมัม!

นอกจากที่คุณแม่จะควรเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับเหล่าเบบี๋แล้ว คุณแม่ก็ควรจะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเองและน้องจิ๊มิโกะเช่นกันค่ะ 🫶🏻 เพราะการเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับน้องจิ๊มิโกะ ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีดูแลตัวเองที่สามารถทำได้ง่ายๆ ในทุกๆ วันด้วยนะคะ โดยเฉพาะในช่วงที่คุณแม่ยังมีน้ำคาวปลาและเลือดไหลกระปริบกระปรอยในช่วงหลังคลอด การเลือกใส่ผลิตภัณฑ์อนามัยที่สะดวกสบาย คุณภาพดี อย่าง กางเกงในอนามัย Pynpy’ ก็เป็นสิ่งที่เรียกได้ว่า Must Do เลยค่า 🤩💖

โดยกางเกงในอนามัย Pynpy’ เป็นกางเกงในอนามัย (Period Panties) ที่สามารถใส่เดี่ยวๆ ได้เลย ไม่ต้องง้อการใส่ผลิตภัณฑ์อนามัยอื่นๆ ร่วมด้วย แต่กางเกงในอนามัย Pynpy’ ก็สามารถดูดซึมและซึมซับของเหลวได้เทียบเท่ากับผ้าอนามัย 2-3 แผ่น แห้งเร็ว ระบายอากาศได้ดี ลดโอกาสการเกิดการอับชื้นที่บริเวณน้องสาว ใส่ได้นานสูงสุด 8-12 ชั่วโมง ไม่ต้องคอยลุกไปเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อยๆ เพราะในช่วงหลังคลอด แค่จะลุกขยับตัวไปไหนก็เจ็บแผลไปหมด Pynpy’ เข้าใจจุดนี้ดีค่ะ 🙌🏻

และกางเกงในอนามัย Pynpy’ ยังได้รับ ใบรับรองมาตรฐาน OEKO-TEX ที่รับประกันคุณภาพและมาตรฐานของสินค้าจากสถาบันทดสอบสิ่งทอจากประเทศสวิสเซอร์แลนด์อีกด้วยนะคะ เป็นการรับประกันว่า กางเกงในอนามัย Pynpy’ นั้นปลอดภัย ไร้สารตกค้าง สามารถสวมใส่ได้อย่างไร้กังวล และหากคุณแม่คนไหนเป็นคุณแม่สายประหยัด ก็ขอบอกเลยว่า กางเกงในอนามัย Pynpy’ นั้นก็ตอบโจทย์สุดๆ ค่ะ 💰 เพราะกางเกงในอนามัย Pynpy’ นั้นสามารถสวมใส่ได้นานสูงสุดถึง 2 ปี ขอแค่ซักทำความสะอาดดีๆ น้องก็อยู่กับเราได้นานเลยล่ะค่ะ 🌱

ไม่อยากพลาดผลิตภัณฑ์อนามัยที่คุณสมบัติปังขนาดนี้ ก็ต้องรีบไป CF กันที่หน้าเว็บไซต์ หรือจะไปเลือกเดินช็อปปิงที่หน้าร้านของ Pynpy’ ทุกสาขาเลยก็ได้นะคะ หรือถ้าไม่อยากพลาดคอนเทนต์ดีๆ มีคุณภาพในทุกบทความ ก็อย่าลืมมากดติดตาม Pynpy’ กันได้ทาง Facebook, Instagram, Twitter, Tiktok, Youtube และ Line เลยน้า 🎉