ปัญหาของ “น้ำคาวปลา” ที่คุณแม่มือใหม่หลายคนมักสงสัย ?

สวัสดีค่ะ คุณแม่มือใหม่ทุกคน เป็นยังไงบ้างคะ คลอดเจ้าตัวเล็กออกมา ยังงงๆ กับการปรับตัวอยู่ใช่ไหมคะ แถมยังต้องมีเรื่องชวนสงสัยกับสิ่งที่ไหลออกมาจากน้องจิ๊มิหลังคลอดกันอีกด้วย หัวจะปวดกันเลยใช่ไหมคะทีนี้

ว่าแต่คุณแม่เพิ่งคลอดกำลังสงสัยกันอยู่รึเปล่าคะ ว่าของเหลวที่ไหลออกมาหลังจากคลอดลูกน้อยนี้คือน้ำอะไร ทำไมมันทั้งสีแปลกๆ กลิ่นแปลกๆ แบบนี้? 

หรือว่าถ้าเพื่อนๆ เป็นคุณแม่ที่กำลังจะเตรียมคลอด ได้ยินมาว่าจะมีของเหลวคล้ายประจำเดือนที่ขับออกมาหลังคลอด แล้วกำลังกังวลว่ามันคืออะไร มันจะมากน้อยแค่ไหน ต้องเตรียมรับมือยังไงบ้าง ? 

Pynpy’ ขอแนะนำให้แม่ๆ ทำความรู้จักกับเจ้าของเหลวนั้นก่อนเลยนะคะ ว่ามันคือ “น้ำคาวปลา” แต่มันคืออะไร หน้าตากลิ่นสีเป็นยังไง และสาระน่ารู้อีกมากมายเกี่ยวกับน้ำคาวปลามีอะไรบ้าง เรามาอ่านต่อในบทความนี้กันเลยดีกว่าค่ะ ! 

ปัญหาของ “น้ำคาวปลา” ที่คุณแม่มือใหม่หลายคนมักสงสัย | Pynpy’

เจ้าของเหลวที่เรียกว่า “น้ำคาวปลา” มันคืออะไรกันแน่ ?

ง่ายๆ เลยนะคะแม่ๆ “น้ำคาวปลา” คือของเหลวที่ถูกขับออกมาจากร่างกายหลังคลอด เพื่อเป็นการระบายเลือด ของเหลวต่างๆ เช่นน้ำคร่ำ รวมไปถึงเศษเนื้อเยื่อ ออกจากมดลูกหลังคลอดนั่นเองค่ะ 

โดยทั่วไป น้ำคาวปลาจะมีความคล้ายกับประจำเดือน ตรงที่มักจะมีสีแดงเข้มในช่วงวันแรกๆ และสีก็จะค่อยๆ อ่อนลงเมื่อเวลาผ่านไป 

แต่เป็นสิ่งที่คุณแม่หลายคนไม่ได้เตรียมรับมือก็คือกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ของมันนี่เอง น้ำคาวปลามักจะมีกลิ่นคาวเฉพาะตัว หรืออาจะมีกลิ่นเหม็น แต่มันไม่ใช่เรื่องที่แย่นะคะ เพราะมันคือการเอาของเสียที่หลงเหลืออยู่ออกจากร่างกายของคุณแม่นั่นเอง 

โดยปกติ ร่างกายแม่ๆ ก็จะ เริ่มขับน้ำคาวปลาออกมาตั้งแต่ในช่วง 3 วันแรกหลังคลอดไปจนเป็นเดือน ก็มีค่ะ

โอ้โหห! นานเป็นเดือนๆ งั้นเหรอ ? นานขนาดนั้น เรามาดูกันดีกว่าค่ะ ว่าในแต่ละช่วงเวลา น้องน้ำคาวปลานี่จะมีการเปลี่ยนแปลงไปยังไงบ้าง 

ระยะเวลาที่ต้องรับมือกับน้ำคาวปลา และต้องเจออะไรบ้าง ? 

Pynpy’ ขอแบ่งระยะเวลาการมีน้ำคาวปลาให้คุณแม่ได้ทำความเข้าใจกับชนิดของน้ำคาวปลา ตามระยะเวลาของมัน ตั้งแต่หลังคลอดทันที จนถึง 5-6 สัปดาห์กันเลยนะคะ จะได้เข้าใจและสังเกตการเปลี่ยนแปลงได้ง่ายๆ ไปพร้อมๆ กัน ! 

• 24 ชั่วโมงแรกหลังคลอดทันที – มักจะมีสีแดงเข้ม และจะไหลออกมาในปริมาณมาก ส่วนใหญ่จะเป็นเลือดที่ถูกขับออกมา และจะไหลอย่างต่อเนื่อง แนะนำให้คุณแม่เปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อยๆ ทุกๆ 1-2 ชั่วโมง 
• 2-6 วันหลังคลอด – ในช่วงสัปดาห์แรกหลังคลอดนี้ น้ำคาวปลาจะถูกขับออกมาน้อยลง จะเปลี่ยนสีจากแดงเข้มเป็นสีน้ำตาล น้ำตาลเข้ม หรือสีแดงอมชมพู
• 4-10 วัน/7-10 วัน หลังคลอด – สีน้ำคาวปลาจะอ่อนลง เป็นสีน้ำตาลอ่อนหรือสีชมพูอ่อน 
• 10-14 วันหลังคลอด – สีของน้ำคาวปลาจะอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด เมื่อเทียบกับสัปดาห์แรกหลังคลอด รวมถึงปริมาณของน้ำคาวปลาที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัดอีกด้วย แต่ถ้าในช่วงนี้คุณแม่เริ่มฮีลจากแผลหลังคลอดได้แล้วบ้าง และเริ่มมีแรง เล่นโยคะ ออกกำลังกาย ก็อาจจะมีเลือดถูกขับออกมาเพิ่ม ทำให้น้ำคาวปลามีสีแดงเข้มขึ้นอีกก็ได้นะคะ
• 3-4 สัปดาห์หลังคลอด – ในช่วง 1 เดือนหลังคลอดนี้ น้ำคาวปลามักจะไม่ค่อยมีเลือดปนแล้ว และส่วนใหญ่จะมีลักษณะเป็นเมือกสีขาวหรือสีขาวอมเหลืองค่ะ
• 5-6 สัปดาห์หลังคลอด – ในช่วงระยะนี้ คุณแม่มือใหม่ส่วนใหญ่จะไม่มีน้ำคาวปลาถูกขับออกมาแล้วค่ะ

เห็นไหมคะ บอกแล้วว่าจะมีฟิลลิ่งคล้ายๆ การมีประจำเดือน เพียงแต่แค่ใช้เวลานานกว่าในการขับของเสียออกมานั่นเองค่ะ 

ว่าแต่ !? คล้ายกันขนาดนี้ แล้วมันแตกต่างจากการมีประจำเดือนยังไงนะ ก็เกือบจะเหมือนกันแล้วนี่? งั้นเรามาดูกันหน่อยดีกว่า ว่าน้ำคาวปลากับประจำเดือน แตกต่างกันยังไงบ้างนะ 

ความแตกต่างของ “น้ำคาวปลา” vs. ประจำเดือน 

สิ่งแรกเลยนะคะ ที่แตกต่างอย่างเห็นได้ชัดคือ น้ำคาวปลาเป็นการขับของเหลวออกจากร่างกายหลังคลอดทันที และจะมีระยะเวลาที่นานกว่าประจำเดือนอย่างเห็นได้ชัด บางคนอาจจะนาน 3-4 เดือนก็มีนะคะ แต่! ไม่ต้องวอรี่นะคะแม่ๆ เพราะน้ำคาวปลานี่จะมีแค่ครั้งเดียวหลังคลอดเท่านั้น  ไม่ได้มาทุกๆ เดือนเหมือนน้องเมนส์ 

และที่แม่ๆ หลายคนจะต้องรู้สึกได้ก็คือน้ำคาวปลาที่ถูกขับออกมาเนี่ย มันไม่ได้มีแค่เลือดเพียวๆ เพราะน้ำคาวปลามักจะมีเศษเนื้อเยื่อ และของเหลวอื่นๆ เช่นน้ำคร่ำ ออกมาด้วยนั่นเอง

จะว่าไป จริงๆ แล้วข้อแตกต่างระหว่างน้ำคาวปลากับประจำเดือนก็ไม่ได้ต่างกันมากหรอกใช่ไหมคะแม่ๆ แต่ก็ยังต้องมีวิธีการดูแลที่ละเอียดอ่อน และระมัดระวังกันหลายอย่างอยู่ โดยเฉพาะสำหรับคุณแม่มือใหม่หลายคนที่จะต้องดูแลทั้งตัว ดูแลทั้งลูกน้อย และอื่นๆ อีกมากมายร้อยแปดพันเก้า 

พูดมาขนาดนี้แล้ว เรามาดูวิธีดูแลตัวเองและน้องน้ำคาวปลา ให้อยู่ร่วมกันได้แบบไม่เบียดเบียนกันกันดีกว่านะคะ 

วิธีดูแลตัวเอง เมื่อมีน้ำคาวปลาหลังคลอด 

อย่างแรกที่สำคัญมากๆๆๆ! สำหรับการรับมือกับน้ำคาวปลาก็คือแผ่นอนามัยสำหรับแม่หลังคลอดนั่นเองค่ะ เพื่อช่วยรองรับและซึมซับน้ำคาวปลาให้ไม่เลอะเทอะเปรอะเปื้อนไปทั่ว 

แต่จริงๆ แล้วเราก็มีอีกหนึ่งตัวเลือกที่จะช่วยรองรับของเหลวเหล่านี้เป็นอย่างดีไม่แพ้กันเลยนะคะ ซึ่งก็คือ กางเกงในอนามัย Pynpy’ ที่ใช้แทนผ้าอนามัยได้เลย แถมยังคอยดูดซึมและล็อกไม่ให้ของเหลวไหลย้อนกลับอีกด้วย! 

และเพื่อให้เพิ่มความสบายตัวในการเลี้ยงลูกน้อยไปพร้อมๆ กับมีน้องน้ำคาวปลาไหลอยู่ตลอดเวลา คุณแม่ก็หาเสื้อผ้าที่ใส่สบายๆ ไม่รัดแน่นจนเกินไป ใส่เพื่อความคล่องตัวและความสบายทั้งช่วงล่างและช่วงบน ให้ร่างกายได้รู้สึกรีแล็กซ์ด้วยก็ดีนะคะ

และสิ่งที่สำคัญสำหรับคุณแม่มือใหม่ทุกคนเลย ก็คือการพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายได้ทำตามกลไกการฮีลตัวเองอย่างดีที่สุด และให้ตัวคุณแม่เองได้มีแรงมาสู้รบกับเจ้าเด็กน้อยตัวแสบของคุณแม่ได้อย่างเต็มกำลังนั่นเองค่ะ

แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่คุณแม่มีอาการปวดท้อง หรือปวดหน่วงๆ แม่ๆ จะกินยาแก้ปวดสักเม็ดสองเม็ดเพื่อบรรเทาอาการหน่อยก็ได้นะคะ แต่ถ้าปวดท้องน้อยมากๆ เมื่อไหร่ อันนี้ต้องเอะใจแล้วแหละ รีบยกหูโทรหาคุณหมอหรือเข้าไปปรึกษาแพทย์ที่โรงพยาบาลจะดีกว่านะคะ จะได้รับคำแนะนำที่ถูกต้อง

Pynpy' Tip

ถ้ามีเศษลิ่มเลือดที่ขนาดใหญ่พอๆ กับลูกกอล์ฟ มีเลือดสีแดงสดไหลออกมานานเกิน 4 วันหลังคลอด หรือมีอาการเป็นไข้ตัวร้อนหรือปวดท้องน้อยร่วมด้วย อย่างนี้เพื่อนๆ ต้องรีบปรึกษาแพทย์ทันทีเลยนะคะ ควรได้รับคำแนะนำและวิธีการรักษาจากมืออาชีพจะปลอดภัยที่สุดค่ะ

กางเกงในอนามัย Pynpy’ ตัวช่วยชั้นดีของคุณแม่มือใหม่ทุกคน

แหมๆ เกริ่นมาตั้งนาน คุณแม่ก็เริ่มจะเข้าใจแล้วใช่ไหมคะว่า เจ้าปัญหาน้ำคาวปลาเนี่ย มันก็คือการขับของเหลวออกจากร่างกายเหมือนกับประจำเดือนเพื่อนรักของเรานั่นเอง ดังนั้น ถ้าจะให้ Pynpy’ แนะนำตัวช่วยดีๆ ที่จะช่วยเป็น Solution ที่ตรงจุดให้กับคุณแม่ เราก็คงต้องอวยยศให้กับ กางเกงในอนามัย Pynpy’ ที่สุดแสนจะใช้งานง่ายและคลายความกังวลใจเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี

กางเกงในอนามัย Pynpy’ เป็นนวัตกรรมสิ่งทอจากเทคโนโลยีและวัสดุพิเศษ ที่ถูกค้นคิดมาเพื่อช่วยซึมซับเจ้าของเหลวต่างๆ ทั้ง ประจำเดือน น้ำคาวปลา ตกขาว หรือของเหลวอีกมากมาย ของเราๆ ให้แห้งไวและไม่อึดอัดหรือสร้างความระคายเคืองให้กับน้องจิ๊มิของเรานั่นเอง ใส่ได้ยาวนานถึง 8-12 ชั่วโมง ไม่ต้องคอยพะวงหน้าพะวงหลังลุกเปลี่ยนระหว่างกล่อมลูกน้อยระหว่างวันได้เลยสบายๆ

ที่สำคัญ กางในอนามัย Pynpy’ ยังเหมาะกับทุกเพศทุกวัย ทุก Shape ทุกไซซ์ เพราะมีให้เลือกถึง 11 ไซซ์ เลยค่ะ ตั้งแต่ 3XS – 5XL คุณแม่หลังคลอด หรือคุณแม่เตรียมคลอดก็ใส่ได้สบายๆ ไม่อึดอัด ไม่รัดติ้ว แต่ก็ยังคงความกระชับให้รู้สึกมั่นใจแบบไม่มีกังวลกันเลยแหละค่ะ

แถมคุณแม่ไม่ต้องกังวลกับการหาซื้อผ้าอนามัย แผ่นรองอนามัยหรือตัวช่วยอื่นๆ แบบหลายไซซ์ หลายเบอร์ หลายความหนานุ่มใดๆ เพราะ กางเกงในอนามัย Pynpy’ เอาอยู่ ! ใช้ได้เหมือนกางเกงในทั่วไป ซักน้ำ ถูขยี้เบาๆ พร้อมบิดตากให้แห้ง แค่นี้คุณก็แม่ก็มีเพื่อนคู่น้องจิ๊มิแบบไม่ต้องเปลืองเงินหลายๆ รอบกันเลยค่ะ

ยังไงถ้าคุณแม่สนใจอยากค้นคว้ารายละเอียดเพิ่มเติม หรือติดตามอ่าน รีวิวผู้ใช้จริง เหมือนคอลัมน์เล็กๆ ด้านล้างนี้ เพื่อประกอบการตัดสินใจก่อน กดสั่งซื้อกางเกงในอนามัย Pynpy’ ก็ติดตามอัพเดทและข่าวสารเหล่านี้ได้ที่ หน้าเว็บไซต์ Pynpy’ ได้เลยนะคะ

Num
เภสัชกร

(ก่อนหน้านี้)ใช้ถ้วย กับ กกน ที่มีกันเปื้อนอ่าค่ะ แต่ไม่มีซึมซับนะคะ เพราะถ้วยนี่ล้นทุกเดือน ก่อนเคย ใช้ผ้าอนามัย แต่พอหลังคลอด กลายเป็นแพ้ค่ะ ใช้ไป 3 วันจะเริ่มคัน แล้วกว่าจะครบ 7 วัน คือ เกาจนเป็นแผลค่ะ...
พอเจอ pynpy เมื่อช่วง กย. ปีนี้ เราก็แอบส่องมาเรื่อยๆ จนมั่นใจว่าน่าจะใช้ได้จริง ก็สั่งมาเลยค่ะ ^^ ชอบมากค่ะ เปลี่ยนวันยุ่งยากให้เป็นเรื่องง่าย

Opal
นักศึกษาปริญญาโท สาขา Material Science and Engineering

 เวลาที่ใช้ pynpy ถ้าเทียบกับใช้ผ้าอนามัยปกติก็คือ ดีกว่าในเรื่องความซึมซับที่จะไม่รู้สึกว่ามีของเหลวไหล แล้วก็ไม่ซึมเปื้อนที่นอนเลย ทำให้หลับสบายดีมากเลยค่ะ คืนแรกที่มาหนักมากเอาอยู่เลย ไม่มีเลอะที่นอนเลยดีใจมากๆ 🤣

Fu
รับราชการ

มันปกติมากๆ แห้งสบายน้อง ตอนตื่นมาก็ไม่เลอะที่นอนด้วย ปกติผ้าอนามัยไม่ว่าใส่ยาวแค่ไหนก็เลอะเตียง ตอนเช้าเอาไปล้างน้ำแปบเดียวก็สีเลือดก็จางแล้ว ซักง่ายมาก ซักเสร็จ ไร้กลิ่นคาวด้วย ตอนตากก็ไม่เขินเพราะมันคือกางเกงในปกติเลย

แล้วอย่าลืมติดตามช่องทาง Social Media อื่นๆ ของ Pynpy’ เพื่อรับข้อมูลข่าวสารและติดตามสาระน่ารู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ดีๆ อย่างกางเกงในอนามัย Pynpy’ ได้ที่ Facebook, Youtube, Twitter, Instagram และ Line Official ได้เลยน้าา

แม่ๆ มือใหม่ไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำคาวปลาเลยนะคะ ให้กางเกงในอนามัย Pynpy’ จัดการเรื่องนี้เอง และคุณแม่ก็เลี้ยงลูกน้อยให้สนุก กอดรัดฟัดเหวี่ยงให้หนำใจดีกว่าค่ะ ไว้เจอกันใหม่นะคะ บ๊ายบายย ~