fbpx

รู้ก่อนกดชักโครกทิ้ง! ปัสสาวะแต่ละสี…บอกอะไรเราได้บ้าง?

ส่งท้ายเดือนแห่งความภูมิใจของความหลากหลายทางเพศอย่าง “Pride Month” ด้วยปัสสาวะหลากสีที่ใครหลายๆ คนอาจไม่เคยรู้มาก่อน…ว่าสีของปัสสาวะหรือที่เราเรียกกันว่า “ฉี่” นั้นมีหลายสี หลายเฉด มากกว่าที่เราคิด

ปัสสาวะ

Pynpy’ เชื่อว่า 50% ของคนที่กำลังอ่าน Topic นี้อยู่จะต้องเคยสังเกตสีของปัสสาวะตัวเองบ่อยครั้งเวลาเข้าห้องน้ำว่า เอ้…ทำไมสีของปัสสาวะเรามันไม่เหมือนกันเลยในแต่ละวัน บางวันสีเข้มดูน่ากลัว บางวันสีอ่อน หรือ บางวันก็ไม่มีสีเลย มันเป็นเพราะอะไรกันนะ? แล้วสีแบบไหนคือสีปกติของปัสสาวะที่ดี ที่ควรจะเป็น? (ขมวดคิ้วแล้วหนึ่ง)

ส่วนอีก 50% ก็คือกลุ่มคนที่โนสนโนแคร์ ทำธุระเสร็จก็กดชักโครกทิ้งรัวๆ ไม่ได้ทันมองหรือสังเกตุสีของปัสสาวะเลยสักนิด ซึ่งอันที่จริงก็ไม่ผิดหรอกค่ะ แต่ถ้าเป็นไปได้ Pynpy’ ก็อยากให้เพื่อนๆ หมั่นสังเกตสีของปัสสาวะตัวเองดูทุกครั้ง หรือ บ่อยเท่าที่จะเป็นไปได้น้า เพราะเจ้าสีของปัสสาวะนี่แหละคือสัญญาณบ่งบอกปัญหาสุขภาพของแท้ ที่จะช่วยบอกเพื่อนๆ ได้ว่าช่วงนี้ร่างกายของเรายังโอเคอยู่รึเปล่า

ปัสสาวะ

พูดมาขนาดนี้ก็คงอยากรู้กันแล้วใช่มั้ยล่ะคะว่าปัสสาวะของคนเรานั้นมันมีทั้งหมดกี่สี แต่ละสีมีความหมายยังไง และมันสามารถบ่งบอกโรคหรือเตือนภัยสุขภาพอะไรเราได้บ้าง? หมดกังวลและเลิกตั้งข้อสงสัยในใจได้เลยค่ะ! เพราะวันนี้ Pynpy’ จะพาเพื่อนๆ ทุกคนไปไขข้อข้องใจในเรื่องนี้กันให้กระจ่างแจ้งแดงแจ๋เลยค่ะ พร้อมยังงงงง ถ้าพร้อมละก็ปายยยยย ~

ปัสสาวะ 12 สี…สัญญาณเตือนภัยชั้นดีของปัญหาสุขภาพ

เพื่อนๆ หลายคนในนี้อาจจะยังไม่เคยรู้มาก่อนนะคะว่าสีของปัสสาวะนั้นสามารถบอกปัญหาสุขภาพของเราได้ดีเลย ถ้าจะเปรียบเทียบให้เห็นภาพชัดๆ ก็คงเหมือนกับการพยากรณ์อากาศนั้นแหละค่ะ ถ้าช่วงไหนปัสสาวะของเรามีสีที่อ่อนหน่อยก็อาจจะมีความหมายว่า ร่างกายของเรานั้นอยู่ในเกณฑ์ที่ดี เปล่งปลั่งสดใสเหมือนกับ “ฤดูร้อน”

สีปัสสาวะ

แต่ถ้าช่วงไหนสีของปัสสาวะเรามีสีที่เข้มหน่อย ก็อาจจะมีความหมายว่าร่างกายของเรานั้นกำลังค่อยๆ ก้าวเข้าสู่วิกฤต มืดมน และปั่นป่วนเหมือนกับ “ฤดูฝน” หรือ “ฤดูหนาว” ที่ฝนฟ้าและพายุหิมะกำลังก่อตัวอยู่เหนือหัวของเรา ซึ่งในทางการแพทย์เนี่ยก็จะมีการแบ่งสีของปัสสาวะออกเป็น 12 เฉดสี เสมือนสีของรุ้งกินน้ำหลังฝนตกที่มีหลากเฉดสีค่ะ และแม้ว่าจะมีสีสันที่ดูสวยงาม แต่ความงามบางอย่างก็มักแฝงมาด้วยเรื่องไม่ดี หรือ เรื่องไม่น่ายินดีที่เรามักไม่อยากให้มันเกิดขึ้นค่ะ

ซึ่งแต่ละสีก็จะมีความหมายและการบ่งบอกโรคที่แตกต่างกันออกไป จะมีสีอะไรบ้างนั้น…เรามาเริ่มที่สีแรกกันเลยดีกว่าค่าาา

  • สีใส หรือ ไม่มีสี = พบได้ในกลุ่มคนที่ดื่มน้ำในปริมาณมาก หรือ มากจนเกินไป ซึ่งมีผลทำให้มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคไต และ โรคเบาหวานได้ค่ะ
  • 🤍 สีขาวขุ่น = มักเกิดจากการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคกรวยไตอักเสบ และ กระเพาะปัสสาวะอักเสบได้ค่ะ
  • 💛 สีเหลืองอ่อน หรือ สีเหลืองทอง = เป็นสีของปัสสาวะที่ปกติ ระดับน้ำในร่างกายอยู่ในเกณฑ์ที่พอดี ไม่มากไม่น้อยจนเกินไปค่ะ
  • 💛💛สีเหลืองเข้ม = เป็นสีของปัสสาวะที่ยังอยู่ในเกณฑ์ปกติอยู่ แต่! ควรดื่มน้ำให้มากขึ้นอีกนิดก็จะดีค่ะ
  • 🟡 สีเหลืองสด = พบได้ในกลุ่มคนที่ทานวิตามิน หรือ อาหารเสริมมากกว่าที่ร่างกายต้องการ
  • 🧡 สีส้ม = ภาวะร่างกายขาดน้ำ หรือ อาจจะมีปัญหาเกี่ยวกับถุงน้ำดีและตับ รวมไปถึงกลุ่มคนที่ทานแครอท (แอบน่ารักอะ ><) หรือ วิตามิน B2 ในปริมาณมาก จึงอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปัสสาวะมีสีส้มได้ค่ะ
  • 🤎 สีส้มเข้ม หรือ สีน้ำตาล = มักเกิดจากการขาดน้ำอย่างรุนแรง มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคดีซ่าน หรือ อาจมีภาวะกล้ามเนื้อลายสลายได้ค่ะ
  • 🖤 สีน้ำตาลเข้ม หรือ สีดำ = เป็นสัญญาณของโรคตับอักเสบ และ โรคมะเร็งผิวหนัง ควรรีบไปพบแพทย์ด่วนจี๋เลยค่ะ!
  • 💖❤️ สีชมพู หรือ สีแดง = บ่งบอกถึงการมีเลือดเจือปนอยู่ในปัสสาวะค่ะ และ อาจเป็นสัญญาณของโรคไต โรคนิ่วในไต เนื้องอก หรือ มะเร็งค่ะ
  • 💚 สีเขียว = เกิดได้จากหลายสาเหตุเลยค่ะ ทั้งทานผักบางชนิดมากจนเกินไป ทานสีผสมอาหารในปริมาณที่สูงเกินที่ร่างกายต้องการ หรือแม้แต่การรับยาบางชนิดก็อาจมีส่วนทำให้ปัสสาวะมีสีเขียวได้ค่ะ นอกจากนี้ยังเป็นสัญญาณของการติดเชื้อแบคทีเรียในทางเดินปัสสาวะด้วยนะคะ
  • 💙 สีฟ้า = อาจเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียในทางเดินปัสสาวะ หรือ อาจจะเกิดจากโรคทางพันธุกรรมบางอย่างที่ส่งผลให้แคลเซียมในเลือดนั้นมีปริมาณที่สูงผิดปกติค่ะ
  • 💜 สีม่วง = พบได้ในผู้ป่วยที่ใส่สายสวนปัสสาวะนานจนเกิดการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ โดยจะมีชื่อเรียกเฉพาะว่า “อาการปัสสาวะในถุงเป็นสีม่วง” หรือ (Purple Urine Bag Syndrome) ค่ะ
สีของปัสสาวะ

อ่านมาถึงตรงนี้แล้วเพื่อนๆ ก็พอจะคิดภาพตามได้แล้วใช่มั้ยคะ? ว่าสีเจ้าปัสสาวะของเพื่อนๆ ในแต่ละวันนั้นเข้าข่ายการเป็นโรคร้าย หรือ กำลังตกอยู่ในภาวะสุ่มเสี่ยงที่จะเป็นโรคอันตรายอยู่รึเปล่า? เพราะดื่มน้ำน้อยไปก็ไม่ดี หรือ จะดื่มน้ำน้อยไปก็ไม่ควร แล้วทีนี้เราควรจะต้องใช้ชีวิตยังไงดีล่ะ? ที่จะทำให้สีปัสสาวะของเรานั้นยังอยู่ในเกณฑ์ที่เป็นปกติ และ ปลอดภัยกับร่างกายมากที่สุด???

อย่าเพิ่งกังวลไปค่ะ Pynpy’ มาทั้งทีนี่เนอะ! นอกจากจะเอาความรู้มาฝากเพื่อนๆ แล้ว Pynpy’ ก็ต้องนำเคล็ดลับดีๆ มาฝากเพื่อนๆ ทุกคนด้วยเช่นกันค่ะ ก่อนอื่นเราไปฟังคำแนะนำจากคุณหมอผู้เชี่ยวชาญกันก่อนดีกว่า แล้วค่อยไปทำความรู้จักกับไอเท็มดีๆ ที่ Pynpy’ ได้หยิบมาแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักกันค่ะ

จบปัญหาปัสสาวะมีสีเข้ม ฟังคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

อย่างที่เพื่อนๆ ทุกคนได้อ่านกันไปแล้วนะคะ ว่าสีปัสสาวะของคนเรานั้นมีมากถึง 12 เฉดสี แถมยังมีความหมายที่บ่งบอกอาการของโรคที่แตกต่างกันออกไปอีก ทีนี้เราจะสามารถป้องกันหรือแก้ไขสีของปัสสาวะเราให้พอดีในแต่ละวันได้ยังไง? วันนี้ รศ. นพ.กิตติณัฐ กิจวิกัย จากภาควิชาศัลยศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี ท่านมีคำตอบมาให้ค่าาาา

ปัจจัยที่ทำให้ปัสสาวะมีหลายสี

คุณหมอ : สีของปัสสาวะคงบอกได้ยากว่าเราเป็นโรคอะไรครับ โดยส่วนใหญ่สีของปัสสาวะที่เปลี่ยนขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำ รวมถึงน้ำจากอาหารที่เราทานแต่ละวันด้วย เช่น ผัก ผลไม้ บางอย่างมีน้ำมาก ก็อาจจะทำให้สีปัสสาวะใสขึ้น แต่สีที่เห็นแล้วน่าเป็นกังวลก็คือ “สีแดงคล้ายเลือด” หรือ “สีแดงดำ” แบบนี้ควรมาพบแพทย์เพื่อรับการตรวจครับ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นหมอแนะนำให้ทุกท่านดื่มน้ำให้ได้วันละ 2 ลิตรขึ้นไปจะดีต่อสุขภาพ หากวันไหนสีปัสสาวะเข้มมากๆ วันนั้นเราอาจจะขาดน้ำ ก็ดื่มน้ำให้มากหน่อย ก็จะทำให้สีปัสสาวะจางลงได้ครับ

ดื่มน้ำห้เพียงพอ

Pynpy’ : เอาเป็นว่าถ้าเพื่อนๆ ทุกคนไม่อยากมีสีปัสสาวะเข้มปั๊ดจนต้องเสี่ยงโรคเสี่ยงภัยกันน้านนน Pynpy’ ก็ขอแนะนำให้เพื่อนๆ ทำตามที่คุณหมอแนะนำน้า ดื่มน้ำเปล่าเยอะๆ (แต่อย่าเยอะจนเกินไป) ทานผักผลไม้ที่มีน้ำมากๆ (แต่อย่าทานชนิดเดียวเดิมๆ ในปริมาณที่มากจนเกินควร) เน้นเดินทางสายกลางไม่มาก และ ไม่น้อยจนเกินไปนะคะ หากเลือกทานแต่อาหารที่มีประโยชน์ได้ก็จะเยี่ยมเลยค่ะ ที่สำคัญอย่าลืมออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอด้วยก็จะยื่งดียิ่งปังเลยค่าาาา ยิ่งแข็งแรงมากเท่าไหร่ ร่างกายของเราก็จะยิ่งเป็นมิตรกับกระเพาะปัสสาวะมากเท่านั้นน้า ถ้าทำตามทั้งหมดนี้ได้ ปัสสาวะของเพื่อนๆ ทุกคนนี่คงใสกิ๊งยิ่งกว่าฉีดรีจูรันอีก ฮ่า ฮ่า ฮ่า

แต่! แต่! แต่! จะให้ดีขึ้นไปอีกเพื่อนๆ ก็ควรที่จะต้องมี Item ลับฉบับชาว Pynpy’ ที่จะเข้ามาช่วยเสริมสุขอนามัยของเพื่อนๆ ให้ดีเยี่ยมไปพร้อมๆ กับการมีสุขลักษณะที่สะอาด สบาย เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและน้องจุ๋มจิ๋มด้วยนะคะ ซึ่ง “สิ่งนั้น” จะเป็นอะไรไปไม่ได้เลยนอกจากกางเกงในอนามัย Pynpy’ ที่ไม่ว่าจะเมนส์หรือปัสสาวะสีไหน หน้าไหน เราก็เอาอยู่หมดทุกเม็ดทุกสถานการณ์! หน้าตาของน้องจะเป็นยังไงเราไปยลโฉมพร้อมๆ กันเลยดีกว่าค่ะ ป่ะเริ่มเลอะ!

รับมือได้ทุกหยดไม่สนว่าปัสสาวะมีสีอะไร! กับ กางเกงในอนามัย Pynpy’ ยืนหนึ่งเรื่องการซึมซับ

  • กางเกงในอนามัย Pynpy’ เพื่อนซี้หนึ่งเดียวในโลกของมนุษย์เมนส์ ไม่ว่าจะวันมามาก มาน้อย มาแบบกระปริดกระปรอย หรือ คนแม้แต่คนที่มีปัญหาปัสสาวะเล็ด จะแบบไหนก็เอาอยู่ได้ทุกรูปแบบของของเหลว จะกี่สี กี่หยด ก็ซึมซับได้หมดไม่สนว่าสีอะไร!
  • หมดปัญหาอึดอัดไม่สบายน้อง! ด้วยขนาดของกางเกงในอนามัย Pynpy’ ที่มีให้เลือกแบบถึงใจกว่า 11 ไซต์ สบายพุง สบายน้องสาว แถมยังสบายกระเป๋าสตางค์ด้วยราคาสุดคุ้ม จ่ายครั้งเดียวจบ ใช้ได้ยาวต่อเนื่องนานกว่า 2 ปี! ไม่ต้องซื้อผ้าอนามัย หรือ แผ่นอนามัยใช้ไปอีกน้านนนนน
  • ใส่แทนผ้าอนามัยได้เลยไม่ต้องคอยเปลี่ยนให้วุ่นวาย แถมใส่ได้นานสูงสุด 8-12 ชั่วโมง จะเป็นสายชิล สายท่องเที่ยว หรือ สายแอดเวนเจอร์แค่ไหนก็จัดเต็มได้ทุกแมทช์ ~
  • ซึมซับเร็ว แห้งไว ไม่ไหลย้อนกลับ ที่เก๋ไปกว่านั้นคือกางเกงในอนามัยของ Pynpy’ ทุกแบบ ทุกขนาด สามารถซักทำความสะอาดเพื่อใช้ซ้ำได้ ไม่ต้องทิ้ง!
  • ไร้กังวล ไร้กลิ่นอับ ด้วยวัสดุสิ่งทอชนิดพิเศษ อันเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พร้อมอัดแน่นไปด้วยนวัตกรรมยับยั้งแบคทีเรียชั้นยอด ที่หาซื้อได้ที่นี่ที่เดียวที่ Pynpy’ เท่านั้นค่าาาา
pynpy'

โอ้ยยยยยย ย ย ย มีแต่ข้อดีขนาดนี้ แล้วจะรออะไรล่ะคะ!!! กดสั่งซื้อเลยตอนนี้ที่หน้าเว็บไซต์ Pynpy’ ได้เลยค่าาา หรือจะแวะเข้าไปอ่านรีวิวจากผู้ใช้จริงแบบชิลๆ สนุกๆ กันก่อนก็ได้นะคะ ใช้ได้ดี ใช้ได้จริงไม่อิงนิยาย ถ้าไม่อยากเอาท์ ไม่อยากตกเทรนด์คนรุ่นใหม่หัวใจ (น้องสาว) รักษ์โลกก็รีบกดใส่ตะกร้าเลย ณ บัด Now! หรือถ้าอยากคุยปรึกษาปัญหาที่เกี่ยวกับน้องจุ๋มจิ๋ม หรือ มีคำถามในใจที่ไม่รู้จะไปถามใคร หรือ ไม่กล้าไปปรึกษาใคร ก็สามารถทักเข้ามาคุยกับ Pynpy’ ได้ทุกวันเลยน้า เรามีช่องทางออนไลน์ให้ติดต่อเพียบบบ ไม่ว่าจะเป็น  Facebook, Twitter, Instagram, YouTube, TikTok และ Line ทักมาเลยค่ะไม่ต้องเกรงใจ เพราะเราอยากคุยด้วยจริงๆ !