อาการปัสสาวะเล็ด มีเอฟเฟ็กต์กับอารมณ์และสุขภาพจิตได้ขนาดไหน

ไหนจะความเปียกชื้น ไหนจะความอึดอัด แล้วยังต้องคอยกังวลอีกว่าจะไปเล็ดไปไหลที่อื่นที่ไม่ใช่ comfort zone ทั้งอับอาย ทั้งน่าหงุดหงิด โอ้ยยย หลากหลายอรรถรสหลากหลายอารมณ์สุดๆ แบบนี้ใครจะทนไหว! จิตมันฟุ้งซ่านไปหมด 🤯

Pynpy’ เข้าใจนะคะว่าอาการเหล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของสิ่งที่ผู้ที่มีปัญหาปัสสาวะเล็ดต้องเผชิญแบบรายวัน และเจ้าอารมณ์และอาการพวกนี้แหละค่ะ ที่มีผลต่อการใช้ชีวิตของชาวเล็ดไหลอย่างเราเป็นอย่างมาก ทั้งความหงุดหงิดเอย ความอับอายเอย ความกังวลใจอีก เยอะแยะไปหมด

แต่นอกจากอารมณ์เบื้องต้นที่หลายคนภายนอกอาจเห็นหรือรับรู้เหล่านี้แล้ว ยังมีความรู้สึกภายในที่มีแต่ผู้ที่เป็นปัสสาวะเล็ดจริงๆ ที่เข้าใจและรู้สึกอยู่คนเดียว จนบางทีก็อาจทำให้สุขภาพจิตของตัวเองดิ่งลงเรื่อยๆ ไปเลยใช่ไหมคะ 🥹

ใครที่รู้ตัวว่ามีอาการปัสสาวะเล็ดและอยากจัดจำแนก แยกอารมณ์ และทำความเข้าใจอารมณ์ความรู้สึกของตัวเองมากขึ้น หรือใครที่มีคนใกล้ตัวที่กำลังเจอกับปัญหาปัสสาวะเล็ดแบบนี้ Pynpy’ อยากให้ทุกคนลองมาอ่านบทความนี้ด้วยกันนะคะ เรามาลอง disect และทำความเข้าใจอารมณ์และความรู้สึกเหล่านี้ไปด้วยกันดีกว่าค่ะ และช่วยกันหาทางออกที่จะช่วยบรรเทาอาการเหล่านี้ไดกันดีกว่าเนาะ

ความสัมพันธ์ของอาการปัสสาวะเล็ดกับการเปลี่ยนไปของอารมณ์…

ตัวเพื่อนๆ เอง หรือใครที่มีคนที่มีปัญหาปัสสาวะเล็ดใกล้ตัวต้องเข้าใจก่อนค่ะ ว่าอาการปัสสาวะเล็ดมักทำให้เกิดความรู้สึกเหล่านี้ได้ ไม่ว่าจะเป็นความอับอาย ความละอายใจ ความกังวล และการไม่อยากเข้าสังคม โดยเฉพาะกับคนที่เผชิญกับอาการปัสสาวะเล็ดที่มาแบบไหลหลากหรือควบคุมไม่ได้

ซึ่งชาวเล็ดไหลหลายคนก็มักจะหลีกเลี่ยงการออกไปสังสรรค์เข้าสังคม ไปทำกิจกรรมข้างนอกบ้าน ไปเที่ยวกับครอบครัว หรือแม้กระทั่งหลีกเลี่ยงการกระชับความสัมพันธ์กับคนรักคนใกล้ตัว ซึ่งส่งผลให้ผู้ที่มีปัญหาเล็ดไหลสร้างกำแพงขึ้นมา ปลีกวิเวกตัวเองออกมาแบบสันโดษ และบางครั้งทำให้เกิดภาวะซึมเศร้าได้ด้วยนะคะ

ยกตัวอย่างง่ายๆ เลยค่ะ คุณผู้ใหญ่ในบ้านที่แม้ร่างกายจะแข็งแรงดี แต่มีอาการปัสสาวะเล็ดที่ไหลระหว่างวันอยู่บ่อยๆ มักชอบเก็บตัวอยู่บ้าน ไม่อยากออกไปไหน เพราะเวลาจะไปไหนที ต้องใส่ผ้าอ้อมซึมซับไว้ตลอด (แถมต้องคอยหาที่สะอาดๆ เผื่อเปลี่ยนด้วยนะ) ทั้งอึดอัดและอับชื้น แถมยังต้องระวังการลุกนั่งไม่ให้ไปซึมเปื้อนที่ไหน จะเดินจะนั่งหรือทำกิจกรรมอะไรก็รู้สึกไม่มั่นใจเอาซะเลย จริงไหมคะ

หรือแม้กระทั่งคุณแม่ตั้งครรภ์ที่มีอาการปัสสาวะเล็ดเพราะเบบี๋น้อยเบียดกระเพาะปัสสาวะ จะไปช็อปปิ้งซื้อของให้ลูกในห้างแค่นี้ ก็ไม่อยากจะไปแล้ว เพราะกลัวเปียกกลัวซึม แถมยังต้องอึดอัดกับการใส่ผลิตภัณฑ์เสริมไว้ป้องกันอีก นั่งสั่งออนไลน์อยู่บ้านยังสบายใจกว่า แม้จะไม่ได้ไปลองจับลองสัมผัสสิ่งของตามที่ใจอยากจะทำก็ตาม

และการคอยกังวลกับการเล็ดไหลเหล่านี้แหละค่ะ ที่ทำให้เกิดความเครียดอย่างต่อเนื่องได้ แถมยังเกิดอาการ hypervigilence หรือความตื่นตัวความระแวงอยู่ตลอดเวลา มันไม่สบายใจไม่สบายจิตเอาซะเลย ส่งผลเสียกับสุขภาพจิตมากๆ เลยนะคะ

Did you know? 

นักจิตวิทยา Dr. Albers (Susan Albers, PsyD) ได้กล่าวไว้ว่า "But with hypervigilance, you’re feel like you’re constantly under threat." เมื่อมีภาวะตื่นตัวเกินเห็น เรามักรู้สึกว่ามีภัยใกล้ตัวเสมอ เพราะอะมิกดาลา (ส่วนในสมองที่ควบคุมอารมณ์) ทำงานหนักเกินไป ทั้งคอยประมวลผลความระแวงที่เกิดขึ้นตลอดเวลา ความกังวล ความรู้สึกอับอาย และความหงุดหงิดที่ถาโถม มันเยอะมากมายจริงๆ นะคะ (ข้อมูลอ้างอิง: Cleveland Clinic) 

ผลกระทบทางตรงกับความมั่นใจและรูปลักษณ์ภายนอก

เอ้ะ… ไม่แน่ใจว่าเพื่อนๆ จะสังเกตกันไหม แต่พวกเจ้าอารมณ์ความกังวล ความอับอาย ความระแวงเหล่านี้ ล้วนเป็นอารมณ์ที่ควบคุมได้ยากมากเลยนะคะ หรือบางคนอาจจะอึดอัดจนบางทีก็ควบคุมไม่อยู่ก็มี แถมยังมีเรื่องการไม่สามารถควบคุมอาการปัสสาวะเล็ดที่ไม่รู้ปิ๊ดจะแปร๊ดตอนไหนอีก กลายเป็นรู้สึก helpless กับตัวเองไปเลย เหมือนคนควบคุมอะไรไม่ได้สักอย่าง…

อย่างบางคนที่มีอาการปัสสาวะเล็ดก็เลือกใช้ผ้าอนามัยเพื่อรองรับปัสสาวะที่เล็ดไหล และเมื่อผ้าอนามัยเต็ม ก็ต้องมีห้องน้ำให้แวะเปลี่ยนอยู่บ่อยๆ กลายเป็นว่าไปไหนมาไหนก็ต้องคอยสอดส่องสายตาหรือวางแผนกิจกรรมที่จะทำ ให้เป็นที่ที่มีห้องน้ำที่เข้าถึงสะดวก มีพื้นที่ปลอดภัยที่สามารถแวะเข้าทัน แต่ทำแบบนี้บ่อยๆ ก็กลายเป็นว่าทำให้ตัวเองรู้สึกไม่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติทั่วไป หรือบางคนก็รู้สึกแก่หรือช่วยตัวเองไม่ได้ก่อนวัยอันควรด้วยซ้ำ

และความน่ากลัวของการไม่สามารถควบคุมตัวเองได้นี่แหละค่ะ ที่มักทำให้หลายๆ คนรู้สึกไม่มีค่า หรือรู้สึกว่าตัวเองทำอะไรควบคุมอะไรไม่ได้เลยสักอย่าง เลยเลือกที่จะปล่อยปละละเลยชีวิตการอยู่นอกบ้าน ไม่อยากจะไปไหน ไม่อยากจะแต่งตัว หรือถึงขั้นไม่อยากจะดูแลตัวเองเลยก็มี ซึ่งเป็นความรู้สึกที่ negative มากๆ เลยเพื่อนๆ ว่าไหมคะ 😔 เห็นแบบนี้แล้ว หลายคนคงเริ่มเข้าใจมากขึ้นใช่ไหมคะ ว่ามวลรวมหลายสิ่งเหล่านี้ มีผลกระทบกับความมั่นใจและสุขภาพจิตมากๆ เลย

ในเมื่อเราพอจะเข้าใจกันมากขึ้นแล้วว่าการมีอาการปัสสาวะเล็ดมันไม่ใช่เรื่องง่าย ไม่ได้กระทบกับแค่อวัยวะส่วนล่างเท่านั้น แต่ยังกระทบถึงร่างกายและจิตใจของเราได้อีกมากโข แน่นอนค่ะ การพยายามทำความเข้าใจ การให้กำลังใจ และการเปิดใจรับฟังและคอยอยู่เคียงข้างผู้ที่มีปัญหาปัสสาวะเล็ดเป็นสิ่งที่สำคัญอันดับต้นๆ ของคนนอกหรือคนใกล้ชิดมากๆ งั้นเรามาลองเปิดใจแชร์กันหน่อยไหมคะ ว่าควรทำยังไงให้ผลกระทบที่มีต่อผู้ที่มีปัญาปัสสาวะเล็ดทุเลาลงยังไงได้บ้าง

ทำไมการพูดถึงอาการปัสสาวะเล็ดช่วยแบ่งเบาความรู้สึกเหล่านี้ได้

อย่างแรกที่ Pynpy’ อยากจะพูดถึงเลยก็คือการรู้และเข้าใจก่อนว่าอาการปัสสาวะเล็ดนั้นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้กับทุกคนจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นคนใกล้ตัว คนไกลตัว คนอายุน้อยหรือผู้ใหญ่ ก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น เพราะเอาจริงๆ แล้วปัญหาปัสสาวะเล็ดนี่เกิดขึ้นได้มากถึง 1 ใน 3 ของผู้หญิงทุกวัย รวมไปถึงผู้ชายและวัยรุ่นอีกนับล้านเลยนะคะ แต่ก็อยู่ที่เขา ผู้ที่มีอาการ จะกล้าเปิดใจคุยเมื่อไหร่

ด้วยความรู้สึกและอารมณ์ที่หนักอึ้งเหล่านั้นที่ Pynpy’ กล่าวไปข้างต้น ก็คงยากที่จะให้เปิดใจคุยกันแบบโต้งๆ เหมือนการบอกว่า “วันนี้อยากกินข้าวกะเพราหมูสับ” ถ้าแค่เพียงได้มีโอกาสและจังหวะที่เห็นว่าคนรอบตัวมองว่าอาการเล็ดไหลเหล่านี้เป็นเรื่องปกติ คุยได้กันเหมือนบทสนทนาทั่วไป ก็ทำให้กำแพงในใจของผู้ที่มีอาการปัสสาวะเล็ดค่อยๆ ลดลง ทำให้กล้าที่จะพูดคุย ปรึกษา และหาทางออกให้กับตัวเองมากขึ้นนะคะ

และเช่นเดียวกัน ในมุมของผู้ที่ได้รับฟัง ก็จะรู้สึกใกล้ชิด เข้าใจ และยินดีที่จะมอบกำลังใจและซัพพอร์ตให้มากขึ้นอีกด้วยนะ กลายเป็นจุดที่ช่วยเสริมความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้นอีกด้วย แค่นี้ผู้ที่มีปัญหาปัสสาวะเล็ดก็จะอคติกับตัวเองน้อยลง รู้สึกมั่นใจมากขึ้น และสบายใจมากขึ้นเมื่อรู้ว่ามีทีมซัพพอร์ตที่พร้อมจะรับฟังปัญหาที่หนักอึ้งนี้นั่นเองค่ะ

ทวีคูณความอึดอัดเมื่อชาวเมนส์ก็เจออาการปัสสาวะเล็ด

เพื่อนๆ รู้ไหมคะ ผู้ที่น่าจะมีความกังวลใจและความไม่สบายตัวยิ่งกว่าก็คือผู้ที่มีปัญหาปัสสาวะเล็ด แต่เป็นผู้ที่มีประจำเดือนเหมือนกัน ใช่ค่ะ อ่านไม่ผิดค่ะ ผู้ที่มีประจำเดือนก็สามารถมีอาการปัสสาวะเล็ดได้เหมือนเช่นผู้ที่มีอาการปัสสาวะเล็ดก็เกิดขึ้นกับผู้ที่มีประจำเดือนในวัยกลางคนได้เช่นกันค่ะ

ส่วนใหญ่แล้วนั้น ผู้หญิงที่มีประจำเดือนและมีอาการปัสสาวะเล็ดมักพบได้บ่อยในผู้ที่กำลังเข้าสู่วัยทองหรือคุณแม่หลังคลอดมากกว่าคนทั่วไป แต่ก็ไม่ได้แปลว่าจะเกิดขึ้นกับคนอื่นไม่ได้ค่ะ 🧐 แต่เพื่อนๆ ลองคิดแบบลงเลเยอร์ลึกกว่านี้อีกสักนิด ผู้ที่มีประจำเดือนก็มักมีปัญหาที่ต้องรับมือกันแล้วส่วนหน่ึง ไม่ว่าจะเป็นประจำเดือนมามาก ประจำเดือนมาไม่ปกติ หรืออาการปวดท้องเมนส์ และถ้ามีอาการปัสสาวะเล็ด ที่ทั้งเล็ดไหลแบบไม่ทันตั้งตัว ความเปียกชื้น และความกังวลใจเสริมเข้ามาอีก จะหนักหนาขนาดไหน

แต่เพื่อนๆ สังเกตไหมคะ ว่าผู้ที่มักมีอาการปัสสาวะเล็ดและประจำเดือนพร้อมกัน ดูเป็นกลุ่มคนที่มีอะไรสอดคล้องกันมากที่สุด… ฮอร์โมนที่ไม่สมดุลไงคะ! เพราะเอาจริงๆ แล้ว การเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนในร่างกายก็ทำให้มีผลกับกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานและการควบคุมกระเพาะปัสสาวะได้ไม่มากก็น้อยเลยนะคะ ซึ่งหมายความว่าน้องฉี่เล็ดหรือเมนส์ไหลก็จะมีช่องโหว่งที่สามารถพรั่งพรูออกมาได้ไม่ยากเลย

ทั้งนี้ เพื่อให้เพื่อนๆ ที่พบกับปัญหาของเหลวเล็ดไหลซับซ้อนขนาดนี้ สิ่งที่เพื่อนๆ ต้องทำเลยคือการเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน เพื่อให้ช่วยควบคุมและซัพพอร์ตอวัยวะที่ผลิตของเหลวเหล่านี้ออกมาเพิ่มอีกสักชั้น โดยการออกกำลังกายอย่าง kegel exercises หรือการเล่นโยคะ เพื่อช่วยสร้างกล้ามเนื้อและความแข็งแรงในแกนกลางลำตัวของเรานั่นเองค่ะ

อ้ะๆ Pynpy’ ขอไม่พูดพร่ำทำเพลงแล้วดีกว่าค่ะ เพราะสาธยายเกี่ยวกับเอฟเฟ็กต์ที่มีต่อสุขภาพจิตจากอาการเล็ดไหลกันมามากแล้ว สิ่งที่ Pynpy’ เชื่อเลยว่าจะสามารถช่วย boost ความมั่นใจและความสบายใจให้เพื่อนๆ ได้ไม่มากก็น้อยนั้น Pynpy’ ก็มีมาแบ่งปันกันเหมือนกันค่ะ ซึ่งเริ่มง่ายๆ ได้ที่ตัวเอง ทำได้ด้วยตัวเอง และช่วยตัวเราเองได้จริงๆ

เชิดใส่ของเหลวที่ไหลได้ง่ายๆ ด้วยกางเกงซึมซับปัสสาวะ Pynpy’

มาทำความรู้จักกับกางเกงซึมซับปัสสาวะ Pynpy’ กันหน่อยดีกว่าค่ะ เพราะบอกเลยว่าแม้น้องจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยพยุงทางกาย แต่เป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยซัพพอร์ตทางใจได้ดีแบบสุดๆ เพราะเพื่อนๆ (หรือแม้แต่คนที่คุณรักที่คุณมอบให้) ก็จะรู้สึกถึง freedom อย่างสบายตัว แถมยังมีความมั่นใจในตัวเองได้โดยไม่ต้องพึ่งพาผลิตภัณฑ์เสริมอื่นๆ มากมายหลายขนานเลยค่ะ

กางเกงซึมซับปัสสาวะ Pynpy’ เป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยรองรับและซึมซับปัสสาวะเล็ดที่มาแบบไม่บอกไม่กล่าวได้ทุกเวลาโดยไม่มีความรู้สึกเปียกชื้นระหว่างวันเลย เพราะนวัตกรรมสิ่งทอพิเศษที่ Pynpy’ ตั้งใจพัฒนามาในผลิตภัณฑ์ตัวนี้ ช่วยเรื่องการซึมซับแบบขั้นสุดมากถึง 30-100ml แถมยังมีนวัตกรรมลดกลิ่นอับเสริมความมั่นใจให้กับผู้สวมใส่อีกหนึ่งขั้น ในแบบที่ผู้สวมใส่สามารถใส่กางเกงซึมซับปัสสาวะ Pynpy’ ได้ในตัวเดียวครบจบโดยไม่ต้องใช้ผลิตภัณฑ์อื่นเสริมเลยค่ะ ใส่ง่ายๆ เหมือนกางเกงในทั่วไปได้เลย!

และด้วยความที่ Pynpy’ ดีไซน์ออกมาโดยคำนึงถึงทุกคนทุกสรีระจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นคุณผู้หญิงหรือคุณผู้ชาย ก็สามารถเลือกไซส์ที่พอดีกับตัวเองได้สบายๆ ทั้งกางเกงซึมซับปัสสาวะ Pynpy’ รุ่น Easy (สำหรับผู้หญิง) หรือรุ่น Signature (สำหรับผู้ชาย) เราก็มีไซส์ให้เลือกเยอะถึง 9 ไซส์เลยน้า ผลิตจากเส้นใยธรรมชาติผสานกับเทคโนโลยีพิเศษของ Pynpy’ ทุกตัวแน่นอนค่า

แบบนี้ เพื่อนๆ ก็พอจะเห็นภาพแล้วใช่ไหมคะว่าจะช่วยปัญหาเล็ดไหลของเพื่อนๆ ในวันเปียกชื้นยังไงได้บ้าง เพียงสวมใส่กางเกงซึมซับปัสสาวะ Pynpy’ ตัวเดียว ใส่ได้ยาวๆ กว่า 8-12 ชั่วโมงแบบไม่มีซึมไม่มีเปื้อน แค่นี้ก็รู้สึกมั่นใจและสบายใจในการใช้ชีวิตมากขึ้นอีกเป็นกองเลยค่ะ ช่วยแบ่งเบาความตึงเครียดในการทำกิจกรรมข้างนอกบ้านระหว่างวันได้เป็นตัน แถมยังไม่ทำให้รู้สึกเป็นภาระหรือความรับผิดชอบอันใหญ่หลวงจากผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ต้องสลับสับเปลี่ยนระหว่างวันอีกด้วยน้า

อ้ะๆ ตื่นเต้นพร้อมใจกันซื้อแล้วใช่ไหมน้า Pynpy’ ขอแนะนำช่องทางที่จะเป็นเจ้าของกางเกงซึมซับปัสสาวะ Pynpy’ แบบที่ง่ายที่สุดให้ตามพิกัดนี้เลยค่ะ ที่หน้าเว็บไซต์ของเราแบบออนไลน์ตามลิงค์นี้ได้เลยน้า 🔗 กางเกงซึมซับปัสสาวะ Pynpy’

หรือถ้าใครอยากสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมให้กับตัวเอง หรือจะอยากเข้ามาคุยดีเทลเพื่อซื้อเพื่อมอบเป็นคนของขวัญให้กับคนใกล้ตัว ก็ทักทายหา Pynpy’ ได้ทุกช่องทางเลยนะคะ ยินดีให้คำแนะนำและคำปรึกษามากๆ น้าาา (Facebook, Instagram, Twitter, Tiktok, Youtube และ Line)