นอกจาก “หลังคลอด” บรรดาคุณแม่ต้องเผชิญกับอาการต่าง ๆ แล้ว ยังต้องเจอกับความเชื่อเป่าหู ฟู่ววว~ ให้งงงวยกันมากไปกว่าเดิม อื้อหือ ไม่ได้การแล้วค่ะ Pynpy’ ว่า Pynpy’ ต้องเข้ามาช่วยกำจัดปัดเป่าความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับช่วงเวลาหลังคลอดแล้วล่ะ โอมมม~ นะมะนะโม ความเชื่อที่ไม่ถูกต้องจงหายไป!
1. ไม่อยากเจ็บนาน ก็ต้องใช้วิธีผ่าคลอดแหละ
Oops! ถ้าหากเป็นสมัยก่อน ก็จริงอยู่ค่ะ เหมือนที่เพื่อน ๆ มักจะเห็นในละครย้อนยุคเลยค่ะ แบบว่า มีหมอตำแยคอยส่องหว่างขา แล้วคุณแม่ก็ต้องเบ่งสุดขีดพลังชีวิต เบ่งยาว ๆ จนกว่าเบบี๋จะออกมา แบบโบราณอาจจะทำให้มดลูกบีบรัดตัวนานเกินไป กล้ามเนื้อมดลูกบอบช้ำ และเสี่ยงต่อภาวะตกเลือดหลังคลอดด้วยค่ะ
แต่ตอนนี้มีการควบคุมการคลอดที่ดีมากขึ้น สามารถช่วยป้องกันอันตรายของคุณแม่ได้จ้า ดังนั้น ความจริงในปัจจุบันก็คือ…!!! การผ่าคลอดทำให้เจ็บแผลผ่ามากกว่าและนานกว่าคลอดทางช่องคลอดอีกค่ะ เพราะว่าบริเวณช่องคลอดเป็นบริเวณเยื่อบุที่มีเลือดมาเลี้ยงจำนวนมาก ก็เลยฟื้นฟูได้เร็วกว่าแผลหน้าท้อง
2. ขยับให้น้อย อ้อยอิ่งให้มาก แผลหลังคลอดจะได้ฟื้นเร็ว
อัยหยา… ตรงกันข้ามกับความจริงที่ถูกต้องเลยค่ะ จริง ๆ แล้ว หลังคลอดภายใน 24 ชั่วโมงเนี่ย คุณแม่ควรได้ขยับร่างกายแล้วน้าค้า ฮึบ ๆ ๆ เพื่อกระตุ้นให้เลือดมาซ่อมแซมแผลให้สมานเร็วขึ้น แถมเม็ดเลือดขาวจะได้มาช่วยป้องกันไม่ให้แผลติดเชื้ออีกแรงด้วยน้าค้า คุณแม่ขยับตัวให้ได้มากที่สุดเท่าที่ทำไหวดีกว่าค่า
Pynpy’ Tips Pynpy’ เคยพูดถึง ท่าออกกำลังกายฟิตหุ่นหลังคลอด ไว้แล้ว เพื่อน ๆ คนไหนสนใจคลิกอ่านได้เลยจ้า อ่อ ๆ แต่ก็ยังต้องหลีกเลี่ยงการยกของหนักอยู่น้าค้า ขอให้หายสนิทก่อนค่า
3. ออเจ้าต้องอยู่ไฟหลังคลอด
ม่ายน้าาา~ ถ้าจะให้อยู่ไฟแบบโบราณก็ไม่ไหวแน่นอนค่ะ เพราะว่าต้องปิดประตูหน้าต่างให้หมด และต้องนอบนกระดานยาว ๆ ไปเป็นสิบ ๆ วัน ในห้องที่มีกองถ่านร้อน ๆ ข้างเตียง เผลอ ๆ อันตรายจนเกิดเป็นผิวหนังพุพองไปด้วยค่ะ
ยุคนี้ ถ้าเหล่าคุณแม่หลังคลอดรู้สึกหนาว ก็เป็นเรื่องปกติค่ะ และสามารถดูแลตัวเองด้วยวิธีง่าย ๆ ทั่วไปในการให้ความอบอุ่นแก่ร่างกายเลยจ้า เช่น การประคบร้อนเอย ห่มผ้าห่มเอย ปรับอุณหภูมิแอร์ในห้อง เป็นต้นค่า
Pynpy’ Tips แต่เพื่อความอุ่นกาย สบายใจมากยิ่งขึ้น เดี๋ยวนี้สมัยนี้มีบริการอยู่ไฟแบบครบวงจรด้วยนะค้า จะทำที่สถานบริการก็ได้ หรือทำที่บ้านชิว ๆ ไปก็ได้ค่า อยากจะนวดผ่อนคลายแถมด้วยอีกสักแมตช์ หรือจะซื้อชุดสมุนไพรอยู่ไฟมาทำเองก็ง่าย ๆ แจ๋วไปเลยน้อออออ~
4. อดทนอีกหน่อยนะ อีก 1 เดือนหลังคลอดก็ได้สระผมแล้ว
ประเด็นนี้เชื่อมต่อกันมาจากความเชื่อเรื่องการอยู่ไฟหลังคลอดค่ะ เพราะในสมัยก่อนยังไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่น ก็เลยกลัวว่าคุณแม่จะไม่สบาย ภูมิคุ้มกันตก แล้วจะลามไปถึงเรื่องน้ำนมหดเองจ้า
แต่ปัจจุบันนี้ สำหรับการคลอดทางช่องคลอด สามารถอาบน้ำสระผมได้ตามปกติเลยค่ะ ส่วนการผ่าคลอด ต้องรอให้แผลสมานกันก่อนน้าค้า เพื่อป้องกันแผลติดเชื้อค่ะ อาจจะเป็นช่วง 7 วันหลังคลอดหรือหลังตัดไหม 1-2 วันค่า และที่คุณแม่ยังต้องระวังคือ หลีกเลี่ยงการแช่น้ำจนกว่าแผลจะหายดีก่อนน้าค้า
5. เตรียมจด! อาหารต้องห้ามในช่วงหลังคลอด
ขอตอบสั้น ๆ เลยน้าค้าว่า กินได้ทุกอย่าง!! อยากกินอะไรกินโลด แต่ขอเรื่องเดียวเลยค่ะ คือ… สารอาหารต้องครบถ้วนน้าค้า
6. ห้ามกินไข่หลังคลอด ไม่งั้นแผลอักเสบ แผลนูน คีลอยด์
ไข่ คือ แหล่งโปรตีนที่ช่วยให้แผลหลังคลอดฟื้นฟูเร็ว สร้างสรรค์ได้หลายเมนูไม่ให้เบื่อ แถมอร่อยอีกต่างหาก อิอิ ดังนั้น ที่เคยได้ยินมาว่าห้ามกินไข่เพราะเดี๋ยวแผลอักเสบ ไม่จริงทั้งนั้นค่า เหล่าคุณแม่สามารถกินไข่ได้ตามปกติเลยค่ะ ส่วนคนที่ห้ามกินไข่เนี่ย ก็คือคนที่มีอาการแพ้ไข่เท่านั้นจ้า
ช่อง Nurse Kids ได้กล่าวว่า
โปรตีนจากไข่ ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอจากแผลผ่าตัดหรือแผลคลอดได้ เราสามารถกินได้เยอะ ๆ เลยเพื่อให้แผลหายดี หายเร็วยิ่งขึ้น ไข่มีประโยชน์มาก ๆ ค่ะ
สำหรับแผลอักเสบ แผลนูน คีลอยด์ใด ๆ ทั้งหลาย เกิดจากความไม่สมดุลของคอลลาเจนค่ะ และอาจเป็นเพราะพันธุกรรมของบางคนด้วยนะคะ เบื้องต้น เพื่อน ๆ แค่ต้องหลีกเลี่ยงการลูบหรือจับแผลบ่อย ๆ ไม่แกะสะเก็ดแผล และสำหรับใครที่กังวล ไม่ชอบแผลเป็น สามารถปรึกษาคุณหมอได้เลยค่า
Pynpy’ Tips สำหรับเรื่องไข่ อีกหนึ่งประเด็นที่เหล่าคุณแม่มักจะกังวลคือ ภาวะแพ้อาหารผ่านนมแม่ โดยเฉพาะอาการแพ้ไข่ในเด็กแรกเกิด อันนี้ก็ควรปรึกษากับคุณหมอด้วยน้าค้า เช่น ปริมาณไข่ วิธีสังเกตอาการแพ้ การตรวจอาการแพ้ เป็นต้นค่ะ
7. งดน้ำเย็นก่อน เดี๋ยวน้ำนมของคุณแม่หลังคลอดจะหดหาย
จับเข่าคุณแม่หลังคลอด แล้วตอบตรง ๆ เลยนะคะว่า อุณหภูมิของน้ำดื่มเนี่ย ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการผลิตน้ำนมแม่เลยสักกะนี๊ดดด ประเด็นสำคัญคือการดื่มน้ำให้เพียงพอเท่านั้นเองค่ะ จะน้ำเย็น น้ำอุ่น น้ำอุณหภูมิห้อง น้ำแร่ได้หมดค่ะ แต่ช่วงที่ต้องให้นมลูก ควรหลีกเลี่ยงชา กาแฟ แอลกอฮอล์ และเครื่องดื่มชูกำลังไปก่อนน้าค้า
8. เคลียร์จิ๋มหลังคลอด ด้วยยาขับน้ำคาวปลา
NO WAY!! ไม่มีทางจริงเลยค่ะ อะไรก็ตามที่เป็นการบริโภคเพื่อใช้ขับน้ำคาวปลา ไม่มีอยู่จริงน้าค้าเพื่อน ๆ เช่น ยาขับ ยาดอง สิ่งเหล่านี้ไม่ได้มีส่วนช่วยใด ๆ ทั้งสิ้นค่ะ แถมเผลอ ๆ จะไม่ดีต่อสุขภาพคุณแม่และการให้นมลูกด้วยนะคะ
และความจริงก็คือ มดลูกของเหล่าคุณแม่ทั้งหลาย จะทำการบีบรัดตัว และผลักน้ำคาวปลาออกมาเองตามธรรมชาติอยู่แล้วจ้า แล้วก็จะขับออกจนหมดภายใน 4 – 6 สัปดาห์หลังคลอดน้าค้า
9. ชื่อก็บอกว่าน้ำคาวปลา มันก็ต้องเหม็นคาวอะสิ
กรี๊ดดด!อันนี้ผิดแบบร้ายแรงเลยค่ะ เพราะกลิ่นของน้ำคาวปลาที่ปกติเนี่ย จะคล้าย ๆ กับกลิ่นประจำเดือนน้า ถ้าเหม็นเน่า เหม็นคาวล่ะก็ ถือว่าน้ำคาวปลาผิดปกติทันทีเลยจ้า พบคุณหมอด่วน ๆ เลยน้าค้า
10. กางเกงในอนามัย Pynpy’ รับน้ำคาวปลาไม่ไหวหรอก
แหม… บังเอิ๊ญบังเอิญว่ากางเกงในอนามัย Pynpy’ เนี่ย ไม่ธรรมดา อะฮ้า ไม่ธรรมดา แต่คนก็เข้าใจผิดเยอะค่ะ คิดว่ารองรับได้เฉพาะประจำเดือนเท่านั้น จริง ๆ แล้ว กางเกงในอนามัย Pynpy’ รองรับน้ำคาวปลาได้ด้วยน้าค้า คุณสมบัติจะเป็นยังไง อ่านต่อด้านล่างเลยค่า
มีน้ำคาวปลาหลังคลอด ก็ต้องมี Pynpy’ ในอ้อมกอด ถึงจะอุ่นใจ
เหล่าคุณแม่ที่ต้องการดูแลตัวเองหลังคลอด โดยเฉพาะเรื่องน้ำคาวปลา ไม่ต้องกังวลอีกต่อไปแล้วนะคะว่า จะเลือกกางเกงในยังไงน้า หุ่นหลังคลอดจะหาไซซ์ยากไหมน้า แล้วเมนส์จะกลับมาวันไหนก็ต้องรอเซอร์ไพรส์กันอีกทีหรือเปล่า นี่เลย! ตัวช่วยแสนอุ่นใจของคุณแม่ค่ะ กางเกงในอนามัย Pynpy’
ด้วยวัสดุจากธรรมชาติ ทำให้ไม่เกิดการระคายเคือง สวมใส่สบายตัวแน่นอน เพราะมีให้เลือกตั้ง 11 ไซซ์เลยค่า ใส่ได้นาน 8-12 ชั่วโมง เพราะการดูดซับดีเลิศด้วยนวัตกรรมสิ่งทอ และเทคโนโลยีสิ่งทอและ Anti-bacteria ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน OEKO-TEX Standard 100 จากสถาบันทดสอบสิ่งทอจากยุโรป และผ่านการทดสอบทางวิทยาศาตร์ เป็นมาตรฐานระดับโลกอีกด้วยจ้า
จาก 3 รุ่นที่เรามี Pynpy’ ขอแนะนำรุ่น Seamless High Waist เลยจ้า เพราะว่าน้องเหมาะกับคุณแม่หลังคลอดจริง ๆ ค่ะ เทียบเท่ากับผ้าอนามัย 2-3 แผ่นเลยน้า และแม้น้ำคาวปลาจะหมดแล้ว ก็สามารถใส่ต่อสำหรับวันที่มีเมนส์ได้ด้วยค่ะ คุ้มสุด ๆ !! แถมความสะอาดก็ง่ายด้วยน้าค้า แค่ล้าง-ซัก-ตาก เลี้ยงเบบี๋มาเหนื่อย ๆ ไม่อยากซักมือ ก็โยนเข้าเครื่องซักผ้าไปเลยค่า
สบายขนาดนี้ เริ่มสนใจแล้วใช่ไหมค้า เพื่อน ๆ สามารถกดดูรีวิวตรงนี้ได้เลยน้า สามารถหาซื้อได้ตามห้างชั้นนำทั่วประเทศไทย หรือจะสั่งซื้อออนไลน์ก็ได้ค่า ใครอยากคุยกับ Pynpy’ เพิ่มเติม ทักมาโลด! มีทั้ง Facebook, Twitter, Instagram, YouTube, TikTok และ Line เลยจ้า แล้วพบกันอีกครั้งที่นี่ที่เดิม สวัสดีค่า <3