fbpx

“ยาขับเลือด” หรือ “ยาขับประจำเดือน” อันตรายไหม? ใช้อย่างไรกันแน่!?

สวัสดีค่า 😀 กลับมาพบกับ Pynpy’ อีกครั้ง! พร้อมสาระน่ารู้ ย่อยง่าย สไตล์เพื่อนซี้เมาท์มอยพร้อมบอกทริคการดูแลตัวเองและสังเกตตัวเองอย่างถูกต้อง!
วันนี้ก็เช่นกันค่ะ ขอนำเสนอในหัวข้อ “ยาขับเลือด” หรือ “ยาขับประจำเดือน” เชื่อว่าเพื่อน ๆ ต้องเคยได้ยินมาบ้างไม่มากก็น้อย ว่าหากรับประทานแล้วประจำเดือนจะมาปกติ หรือขับเลือดจนส่งผลข้างเคียงทำให้แท้งขณะตั้งครรภ์ อือหือ… พูดแล้วขนลุกกันเบา ๆ ใช่ไหมล่ะคะ

มาค่ะ! ได้เวลามาทำความรู้จักและหาคำตอบพร้อม ๆ กันแล้วล่ะ ว่ามันอันตรายขนาดนั้นหรือไม่ แล้วหากรับประทานเข้าไปจะมีความเสี่ยงอะไรบ้างหนอ มาค่ะ เริ่มเลอ!

ยาขับเลือด หรือ ยาขับประจำเดือน อันตรายไหม? ใช้อย่างไรกันแน่? | Pynpy'
ยาขับเลือด หรือ ยาขับประจำเดือน อันตรายไหม? ใช้อย่างไรกันแน่? | Pynpy'

“ยาขับเลือด” หรือ “ยาขับประจำเดือน” คืออะไร? และสรรพคุณดีจริงไหม?

เดินเข้าร้านขายยาทีไร เพื่อน ๆ คงต้องเคยเห็นหรือเตะตากันบ้างแหละกับเจ้า “ยาขับเลือด” หรือ “ยาขับประจำเดือน”
ซึ่งคุณเขาก็มีอีกชื่อเรียกที่ได้ยินบ่อย ๆ คือ “ยาสตรี” นั่นเองค่ะ

สำหรับ “ยาขับเลือด” หรือ “ยาขับประจำเดือน” คือ ยาแผนโบราณชนิดหนึ่งที่อัดแน่นไปด้วยสมุนไพร อาทิ กวาวเครือขาว, ขิง, ว่านชักมดลูก, ชะเอม เป็นต้น
โดยสมุนไพรเหล่านี้จะผสมกับแอลกฮอลล์ นอกจากนี้ทางการแพทย์ยังเรียกได้ว่าเป็น “ยาฮอร์โมนเอสโตรเจน” (Estrogen) อีกด้วย โดยมีฤทธิ์ทำให้เลือดลมไหลเวียนดียิ่งขึ้น อีกทั้งยังบำรุงเลือดที่ช่วยกระตุ้นให้ประจำเดือนมาปกติอีกด้วยค่ะ ซึ่งแน่นอนเลยนะคะว่า
“ไม่มีผลต่อตัวอ่อน หรือใช้งานเพื่อสรรพคุณการยุติการตั้งครรภ์แต่อย่างใด” น๊า!

Pynpy’ Tips :

“ยาขับเลือด” หรือ “ยาขับประจำเดือน” การใช้งานและรับประทานแต่ละครั้ง ควรปรึกษาแพทย์และเภสัชกรทุกครั้ง! เพราะหากกินผิดวิธีหรือเกินขนาด อาจจะส่งผลกระทบต่อร่างกายระยะยาวได้ค่ะ เนื่องจากตัวยามีแอลกฮอลล์ผสมอยู่นั่นเอง
ยาขับเลือด

มาต่อกันที่สรรพคุณกันด่วนเลยค่ะ! เพราะเชื่อว่าหลาย ๆ คนคงเคยอยากลองกันอยู่ไม่น้อย…
เพราะเสียงลือเสียงเล่าอ้างเยอะเหลือเกินว่ากินแล้วประจำเดือนมาตรง ผิวสวย เปล่งปลั่ง! อุ๊ย… มันดีจริงไหมนะ!?

Pynpy’ จึงทำการลิสต์มาให้เรียบร้อยแล้วตามนี้เล้ย 😀

  • มีส่วนช่วยปรับสมดุลฮอร์โมนเพศหญิงให้อยู่ในระดับปกติ
  • มีส่วนช่วยบำรุงและกระตุ้นโลหิตให้ไหลเวียนดียิ่งขึ้น
  • ช่วยปรับรอบเดือนให้มาปกติ ตรงรอบเดือนมากยิ่งขึ้น
  • บรรเทาอาการตกขาวและขับน้ำคาวปลา
  • มีส่วนช่วยฟื้นฟูมดลูกให้เข้าอู่เร็วมากยิ่งขึ้น เหมาะแก่คุณแม่หลังคลอดบุตร
  • และ ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใสมากยิ่งขึ้น อันเนื่องมาจากการไหลเวียนของเลือดที่ดีขึ้น!
ยาขับเลือด

โอ้โหหห.. จะว่าไปคุณเขาก็ไม่ธรรมดานะคะ สรรพคุณถือว่าเยอะม๊าก…
แถมยังถือว่าเป็นการใช้งานที่ตรงจุด เหมาะแก่เพื่อน ๆ ที่มีปัญหาประจำเดือนมาไม่ตรงวัน
และปัญหาตกขาวเลยก็ว่าได้! แต่เนื่องจากความเป็น “ยาขับเลือด” หรือ “ยาขับประจำเดือน” ที่ส่งผลต่อฮอร์โมนโดยตรง

จึงมาพร้อมความเสี่ยงและข้อควรระวัง
ดังนั้น ก่อนตัดสินใจรับประทานเพื่อน ๆ ลองมาอ่านถึงความเสี่ยงและแนวทางการรับประทานที่ถูกต้องกันก่อนน๊า
มาเล๊ยยย…

ยาขับเลือด

ความเสี่ยงและข้อควรระวัง ที่ต้องรู้ หากรับประทานยาเกินขนาด!

อย่างที่กล่าวไปข้างต้นเลยค่ะเพื่อน ๆ ว่าเนื่องจากน้องเขาเป็น “ยาฮอร์โมนเอสโตรเจน” (Estrogen) หากกินในปริมาณที่มากเกินไป
และระยะเวลาเกินกำหนดตามที่ฉลากข้างกล่องระบุ จะส่งผลให้การออกฤทธิ์กระทบต่อการสร้างเยื่อผนังมดลูก ตลอดจนส่วนอื่น ๆ ในอวัยวะสืบพันธุ์ภายในของเรา
คู่กันกับ “โปรเจสเตอโรน” (Progesterone Hormone) ซึ่งหากฮอร์โมนดังกล่าวไม่สมดุลกันแล้วเนี่ย
ก็อาจทำให้เกิดผนังบุมดลูกฉีดขาดได้ นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงอื่น ๆ ตามลิสต์ด้านล่างนี้เลยค่ะ

  • เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่
  • การเกิดเนื้องอกบริเวณอวัยวะสืบพันธุ์เพศหญิงและเนื้องอกบริเวณเต้านม
  • การเกิดถุงน้ำบริเวณรังไข่และเต้านม
  • บริเวณรังไข่อาจเกิดช็อกโกแล็ตซีสต์ได้
  • กระทบต่อการทำงานของตับโดยตรง
ยาขับเลือด

นอกจากนี้ ผศ.นพ.มานพชัย ธรรมคันโธ ผู้เชี่ยวชาญด้านสูติ-นรีเวชศาสตร์ คณะกรรมการสวท. ยังได้อธิบายถึงประเด็นยาขับประจำเดือนอีกด้วยค่ะว่าการรับประทานยาสตรีมีความเสี่ยงเกี่ยวกับผนังมดลูกที่หนาตัวขึ้นอันเนื่องมาจากการกินยาขับเลือด ส่งผลให้เลือดไหลไม่หยุด ดังนั้น จึงควรบริโภคตามฉลากข้างกล่องอย่างเคร่งครัดน๊า

เรียกได้ว่าความเสี่ยงและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นหากเพื่อน ๆ รับประทานในปริมาณที่มากเกินไป และระยะเวลาที่ยาวนานเกินไป ก็ถือว่ามีมากมายเช่นเดียวกันนะคะ
ดังนั้น ก่อนตัดสินใจเลือกรับประทาน “ยาขับเลือด” หรือ “ยาขับประจำเดือน” ควรมั่นใจในทุกครั้งด้วยนะคะว่า
“ตนเองไม่ตั้งครรภ์ เพราะอาจจะกระทบต่อสภาพร่างกาย” ได้นั่นเองค่ะ

ยาขับเลือด

ผู้ที่ควรระวังและห้ามกิน “ยาขับเลือด” หรือ “ยาขับประจำเดือน” และ คำแนะนำในการรับประทานอย่างถูกต้อง!

ทราบความเสี่ยงและข้อควรระวังกันไปแล้ว… ขออีกนิดค่ะ!
อ่านต่อสักนิดสำหรับผู้ที่ควรระวังและห้ามกิน “ยาขับเลือด” หรือ “ยาขับประจำเดือน”
เพื่อความปลอดภัยของเพื่อน ๆ น๊า…

  • ผู้ที่ประจำเดือนมามาก : การรับประทานยาขับเลือดจะทำให้มีอาการตกเลือดมากขึ้น อีกทั้งเพิ่มความเสี่ยงการเป็นช็อกโกแล็ตซีสต์มากยิ่งขึ้น
  • ผู้ที่ช่องคลอดอักเสบ หรือมีแผลที่ช่องคลอด, มดลูก, ปากมดลูก : การรับประทานยาจะส่งผลให้มีการอักเสบเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งกระตุ้นให้ตกขาวและเนื้อเยื่อมีอาการบวมมากยิ่งขึ้น
  • ผู้ที่เป็นมะเร็ง & เนื้องอก : ยาขับเลือดหรือยาสตรีมีส่วนกระตุ้นให้เนื้องอกและซีสต์เติบโตขึ้น อีกทั้ง ยังมีส่วนเร่งให้มะเร็งกำเริบอีกด้วย
  • ผู้ที่กำลังให้นมบุตร : เนื่องจากตัวยามีส่วนผสมของแอลกฮอลล์ จึงทำให้การนมลูกอาจเป็นอันตรายและมีสารเจือปน
  • ผู้ที่มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับความดันโลหิต : การกินยาดังกล่าวมีส่วนกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตและเส้นเลือดถูกบีบมากขึ้น
ยาขับเลือด

เอาล่ะค่ะ! หลังจากทราบกันมาพอสมควรในตัวของ “ยาขับเลือด” หรือ “ยาขับประจำเดือน” กันไปแล้ว
เชื่อว่าเพื่อน ๆ คงประเมินความเสี่ยงของตัวเองกันแล้วใช่ไหมคะ ว่าสามารถลองกินได้หรือไม่
ดังนั้น เรามาดูคำแนะนำในการรับประทานและการใช้งานกันเลยดีกว่าค่ะ! 😀

ก่อนอื่นต้องขอบอกเลยน๊า… ว่ายาขับประจำเดือนมีหลายยี่ห้อมาก เพื่อน ๆ สามารถเลือกซื้อตามที่สะดวกได้เลยนะคะ
โดยควร ยึดถือเอาฉลากการใช้ยาและการรับประทานตามข้างกล่อง ของยี่ห้อนั้น ๆ เป็นหลัก!

ซึ่งโดยมากวิธีรับประทานส่วนใหญ่ ครั้งละ 1-2 แคปซูล วันละ 2 ครั้ง ก่อนอาหาร เช้า – เย็น
หรือตามฉลากรายละเอียดยี่ห้อที่เพื่อน ๆ เลือกซื้อได้เล้ย!

ยาขับเลือด

นอกจากนี้ Pynpy’ ขอแนะนำเพิ่มเติม…

  • สตรีมีครรภ์ไม่ควรรับประทานนะคะ เนื่องจาก อาจส่งผลต่อทารกในครรภ์และพิการได้
  • ไม่ควรรับประทานระยะยาวแบบต่อเนื่องเกินขนาดการใช้ยาข้างกล่องเด็ดขาด เนื่องจากเป็นพิษต่อตับ!

หลังจากกิน “ยาขับเลือด” หรือ “ยาขับประจำเดือน” กันไปแล้ว…

เตรียมพร้อมรับมือ “ประจำเดือน” กับ กางเกงในอนามัย Pynpy’ กันได้เล้ย!

นี่แหน่ะ ! ได้เวลาเจ้าเมนส์มาเยือนอีกครั้งหลังจากกินยาขับประจำเดือนไป ส่งผลให้รอบเดือนมาปกติมากยิ่งขึ้น ชาวเราแฮปปี้!
แต่ที่แฮปปี้ยิ่งกว่าคือได้ใช้งานเจ้ากางเกงในอนามัย Pynpy’ นี่แหละ! 😀 เพราะแม้ว่าจะมามากแค่ไหน Pynpy’ ก็เอาอยู่ด้วยเทคโนโลยีการซึมซับแบบไม่ไหลย้อนกลับ
กักเก็บเลือดประจำเดือนได้จึ้งขั้นสุด! สวมใส่ได้ตัวเดียวแบบสะดวกไม่ต้องตกผ้าอนามัย แถมยังแห้งสบายยาวนาน 8-12 ชั่วโมง ทำกิจกรรมได้ทั้งวันแบบชีวิตง่ายดายสุด ๆ

Pynpy

นอกจากนี้จะชุดไหนก็มั่นใจ จัดเต็มมาครบไซส์ให้เลือกสรรมากถึง 11 ไซส์ กระชับ สอดรับทุกท่วงท่าการเดิน นั่ง นอน ทำกิจกรรมได้แบบครบ! นอกจากนี้เพื่อน ๆ คนไหนมีผลข้างเคียงเรื่องน้ำคาวปลา, อาการตกขาว ที่อาจขึ้นได้จากการรับประทานยาขับประจำเดือน Pynpy’ ก็ตอบโจทย์และพร้อมเคียงข้างเพราะไม่ว่าของเหลวแบบไหน เราก็เอาอยู่!

อ่านมาถึงตรงนี้ บอกเลยค่ะว่าของมันต้องมี กดสั่งซื้อกางเกงในอนามัย Pynpy’ ได้ที่นี่เล้ย!
หรือเพื่อน ๆ คนไหนอยากมาพูดคุยและแชร์ประสบการณ์ก็สามารถมาเป็นครอบครัวเดียวกับเราได้ที่
ช่องทาง Social Media :  Facebook: Pynpy Instagram: pynpywear YouTube: pynpy Line: @pynpy และ Twitter: @pynpywear ได้เลยน๊า <3

website Pynpy'

ก่อนจากกัน ขอส่งต่อความห่วงใยให้เพื่อน ๆ ที่กำลังอยากลอง “ยาขับประจำเดือน” ให้รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่
อีกทั้ง ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ พยายามผ่อนคลายร่างกายไม่ให้เครียดมากจนเกินไปน๊า เพราะความเครียดถือเป็นปัจจัยสำคัญที่อาจส่งผลต่อรอบเดือนให้มาไม่สม่ำเสมอได้นั่นเอง Pynpy’ เป็นห่วงน๊า แล้วพบกันใหม่ค่า Yayyyyy!!