หลังจากการคลอดลูก คุณแม่มือใหม่ย่อมรู้กันดีว่า หนึ่งในวิธีที่จะช่วยให้ร่างกายของเหล่าคุณแม่กลับมาแข็งแรง ฟิตปั๋ง มีเอเนอจี้ในการเลี้ยงเบบี๋ แถมยังมีสารอาหารให้กับลูกๆ อย่างเต็มที่ก็คือ “การกิน” นั่นเอง 🤱🏻 และตอนนี้ Pynpy’ ก็เชื่อว่า กำลังมีคุณแม่หลายๆ คนที่กำลังสงสัยว่า “เราควรกินหรือไม่กินอะไรบ้างนะ?” อยู่แน่เลย! 👀
What you eat after childbirth can significantly affect your recovery and energy levels, as well as the nutrition you provide for your baby through breastfeeding.
Jessica Alba, Actress and Entrepreneur
เพราะ “อาหาร” ที่คุณแม่ทาน มีบทบาทสำคัญอย่างมากกับการฟื้นฟูพลังงาน บำรุงร่างกาย และคุณภาพของน้ำนมที่จะมอบให้กับเบบี๋ วันนี้ Pynpy’ เลยจะมาพาคุณมัมทั้งหลายมาดูไปพร้อมๆ กันค่ะว่า หลังคลอดลูก มีอาหารอะไรที่ควรกิน และอาหารอะไรที่ควรหลีกเลี่ยงเพื่อสุขภาพทั้งของคุณแม่และเจ้าตัวเล็กบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ~ 💜
สารอาหารที่ต้องมี แม่กินตามนี้ได้เลย!
ก่อนจะไปดูลิสต์อาหารที่ควรและไม่ควรกิน เรามาดูกันก่อนค่ะ ว่ามี สารอาหาร อะไรบ้างที่เหล่าคุณแม่จะขาดไม่ได้ และสารอาหารที่สำคัญพวกนี้จะสามารถหาได้จากที่ไหนกันนะ?
- โปรตีน : มีหน้าที่ซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่เสียหาย เสริมสร้างและฟื้นฟูกล้ามเนื้อ ช่วยให้คุณแม่กลับมาฟิตได้ไวขึ้น
- ธาตุเหล็ก : ช่วยบำรุงเลือดและเพิ่มระดับพลังงาน ลดความเสี่ยงของการเกิดอาการเหนื่อยล้าและหน้ามืดได้ง่าย
- วิตามินซี : เสริมสร้างภูมิคุ้มกันและการฟื้นตัวจากบาดแผล
- แคลเซียม : เสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง เพิ่มแคลเซียมให้กับทั้งคุณแม่และลูกน้อย
- โอเมก้า-3 : ช่วยบำรุงสมองและระบบประสาท
อาหารควรกินหลังคลอด ช่วยฟื้นตัวไวแบบสุด!
สำหรับคุณแม่หลังคลอด การเลือกกินอาหารที่มีประโยชน์เป็นสิ่งสำคัญสุดๆ มาเช็กกันดีกว่าค่ะว่าคุณแม่ควรมีอะไรในจานอาหารบ้าง ถึงจะสามารถฟื้นตัวได้แบบปังๆ ตามฉบับตัวแม่ 🍽️
โปรตีนแบบเน้นๆ
ร่างกายของคุณแม่หลังคลอดต้องการโปรตีนเยอะมาก (ก ไก่ล้านตัว!) อาหารที่ Pynpy’ ขอแนะนำเลยก็คือ เนื้อไก่ 🍗 ปลา 🐟 เต้าหู้ 🍢 ถั่วต่างๆ 🥜 และในทุกมื้ออาหาร คุณแม่ควรจะมีโปรตีนด้วยนะคะ เพราะร่างกายจะได้ฟื้นตัวเร็วขึ้น และเจ้าตัวเล็กๆ ก็จะได้กินโปรตีนดีๆ ผ่านทางน้ำนมด้วยค่ะ
อาหารที่มีธาตุเหล็ก
ในระหว่างการคลอดลูก ร่างกายของคุณแม่มักจะเสียเลือดในจำนวนมาก ธาตุเหล็กจึงเป็นสารอาหารที่สำคัญมากๆ ในการฟื้นฟูระดับเลือดและพลังงาน และอาหารอย่างผักโขม 🥬 ตับ ถั่วเลนทิล หรือเนื้อวัวไม่ติดมัน 🥩 ก็คือแหล่งธาตุเหล็กที่ดีสุดๆ ค่ะ
โอเมก้า-3
อีกหนึ่งสารอาหารสำคัญที่คุณแม่จะลืมไปไม่ได้เลย ก็คือ โอเมก้า-3 นั่นเองค่ะ เพราะโอเมก้า-3 จะช่วยบำรุงทั้งระบบสมองและระบบประสาท การกินปลาแซลมอน 🍣 ปลาซาร์ดีน 🐟 หรือเมล็ดแฟลกซ์ จะช่วยเติมโอเมก้า-3 ให้เหล่าคุณแม่ได้เป็นอย่างดี และเพิ่มสารอาหารที่ลูกน้อยจะได้รับด้วยน้า
เมื่อมีอาหารที่ควรกินแล้ว ต่อไปเราไปดูอาหารที่ไม่ควรกินกันบ้างค่ะ 🙅🏻♀️
อาหารตัวร้ายที่แม่ๆ ควรเลี่ยงหลังคลอด ไม่ไหวอย่ากิน!
Pynpy’ เข้าใจดีค่ะ ว่าในช่วงหลังคลอด เหล่าคุณแม่ก็อาจจะอยากกินอะไรที่ช่วยบำรุงร่างกายตัวเองและลูกน้อย รวมถึงฟื้นฟูร่างกายให้กลับมาฟื้นตัวได้อย่างว่องไว แต่ระวังนะคะ! เพราะมีอาหารบางอย่างที่นอกจากจะไม่ช่วยเรื่องการฟื้นฟูหลังคลอดแล้ว ก็ยังอาจส่งผลเสียตามมาอีกด้วยค่ะ 😮💨
มาดูกันค่ะว่ามีอาหารอะไรที่ควรเลี่ยงบ้างน้า? 🤔
อาหารมันๆ และของทอด
การกินอาหารที่มีไขมันสูงอย่างของทอดและอาหาร Fast Food 🍟🍔 ไม่เพียงแต่จะช่วยชะลอการฟื้นตัวให้ช้าลงแล้ว ก็ยังอาจทำให้คุณแม่น้ำหนักเพิ่มขึ้นโดยไม่จำเป็น และทำให้รู้สึกไม่สบายท้องและอ่อนเพลียด้วยค่ะ หากอยากกินไขมัน ลองหันมากินไขมันที่ดีต่อร่างกายอย่าง อะโวคาโด 🥑 หรือ ถั่วต่างๆ 🫘 จะดีกว่านะคะ
อาหารที่มีรสหว๊านน หวาน
ขนมหวาน เค้ก 🍰 หรือช็อกโกแลตที่มีน้ำตาลสูง 🍫 อาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดของคุณแม่พุ่งสูงและลดลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้คุณแม่รู้สึกเหนื่อยล้ามากขึ้น และยังทำให้น้ำหนักเพิ่มเร็วด้วย ถ้าอยากกินของหวาน ให้เลือกเป็นขนมหวานที่ทำจากผลไม้สด 🍎 หรือปรุงด้วยน้ำผึ้งธรรมชาติ 🍯 แทนดูนะคะ
อาหารที่อาจก่อให้เกิดอาการแพ้ในเบบี๋
คุณแม่ที่ให้นมลูก ควรระวังการกินอาหารบางประเภทที่อาจจะทำให้ลูกน้อยมีอาการแพ้ได้ เช่น นมวัว 🥛 อาหารทะเล 🦞 หรือไข่ 🍳 ด้วยนะคะ เพราะสารก่อภูมิแพ้เหล่านี้อาจส่งผ่านไปถึงเบบี๋จากน้ำนมแม่ ทำให้เกิดอาการไม่สบายตัว ผื่นขึ้น หรือท้องอืดได้ค่ะ 🤢
คาเฟอีนและแอลกอฮอล์
คุณแม่ที่ชื่นชอบการดื่มกาแฟ อาจจะต้องลดปริมาณลงสักหน่อยนะคะ ☕️⬇️ เพราะคาเฟอีนสามารถส่งผลต่อการนอนทั้งของคุณแม่และเจ้าตัวเล็ก Pynpy’ แนะนำให้เปลี่ยนเป็นชาสมุนไพรที่ไม่มีคาเฟอีนแทนจะดีกว่าค่ะ 🍵 ส่วนแอลกอฮอล์ก็ควรเลี่ยงในช่วงให้นม เพราะสามารถส่งผ่านไปยังน้ำนม และมีผลต่อพัฒนาการของลูกได้นั่นเองค่ะ
บำรุงร่างกายจากภายในผ่านอาหารที่กินแล้ว ก็ต้องอย่าลืมดูแลตัวเองจากภายนอกด้วยนะคะ โดยเฉพาะเมื่อหลังจากคลอดลูก คุณแม่อาจต้องเจอกับปัญหาต่างๆ ที่มากับช่วงฟื้นตัว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องน้ำคาวปลา หรือ อาการปัสสาวะเล็ด ที่เกิดจากกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานอ่อนแรง
แม้ปัญหาเหล่านี้จะเป็นเรื่องปกติ แต่คุณแม่ก็อาจจะรู้สึกไม่สบายตัวและกังวลกับการเคลื่อนไหวตัวในระหว่างวัน จะเลี้ยงเบบี๋แบบเต็มที่ก็ทำไม่ได้ Pynpy’ ก็เลยอยากขอแนะนำ กางเกงในอนามัย Pynpy’ ตัวช่วยที่จะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้คุณแม่ได้มากขึ้นในทุกๆ การเคลื่อนไหวให้เหล่าคุณแม่ได้รู้จักกันค่ะ 💜🎉
กางเกงในอนามัย Pynpy’ ตัวช่วยพร้อมรับมือความเป็นแม่แบบปังๆ
การเป็นคุณแม่มือใหม่ไม่ใช่เรื่องง่าย นอกจากจะต้องรับมือกับลูกน้อยแล้ว ก็ยังต้องรับมือกับการปรับตัวของร่างกายในช่วงหลังคลอดอีกด้วย ส่งผลให้คุณแม่หลายๆ คนไม่มั่นใจในการทำกิจกรรมต่างๆ นั่นเองค่ะ 😣
แต่ถ้ามี กางเกงในอนามัย Pynpy’ บอกเลยว่า ปัญหาต่างๆ ที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของร่างกายหลังคลอด ก็จะไม่มีผลต่อความมั่นใจของคุณแม่อีกต่อไปค่ะ! 🥳 เพราะเราเป็น กางเกงในอนามัย (Period Panties) ที่ไม่เพียงแต่สามารถซึมซับของเหลวได้อย่างดีเยี่ยม แต่เรายังช่วยลดโอกาสเกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ และป้องกันปัญหาการซึมเปื้อนตลอดทั้งวันได้ด้วยค่ะ ไม่ว่าจะน้ำคาวปลาหรือปัสสาวะเล็ด ก็ไม่มีปัญหา! 🥰
แอบกระซิบว่า… กางเกงในอนามัย Pynpy’ มี Pee Leakage Set สำหรับคนที่มีปัญหาปัสสาวะเล็ดโดยเฉพาะด้วยนะ 👀
คุณแม่สามารถหยิบกางเกงในอนามัย Pynpy’ มาใส่แทนผ้าอนามัย หรือผลิตภัณฑ์อนามัยอื่นๆ ได้เลย โดยไม่ต้องลุกไปเปลี่ยนบ่อยๆ เพราะกางเกงในอนามัย Pynpy’ สามารถสวมใส่ได้นานสูงสุดตั้งแต่ 8-12 ชั่วโมง ⏳ เลยค่ะ ช่วยเพิ่มความคล่องตัวให้กับเหล่าคุณแม่ได้เป็นอย่างดี แถมยังซักทำความสะอาดง่ายด้วยน้า 🎉
นอกจากนี้ ถ้าคุณแม่คนไหนเสียความมั่นใจในเรื่องของ Body Size ที่เปลี่ยนไปหลังจากคลอดลูก กางเกงในอนามัย Pynpy’ เราก็มีให้เลือกด้วยกันถึง 3 รุ่น 11 ไซส์ค่ะ 💜 ไม่ว่าจะเป็นคุณแม่ไซส์ไหน ก็สามารถช็อปไปใส่ได้แน่นอนค่ะ
เป๊ะปัง คุณสมบัติเต็มร้อยขนาดนี้ คุณแม่คนไหนอยากมีกางเกงในอนามัย Pynpy’ ไว้ครอบครอง ก็ต้องรีบไปช็อปปิงกันที่หน้าเว็บไซต์ หรือหน้าร้าน Pynpy’ ทุกสาขากันให้ไวแล้วล่ะค่ะ 🥳 และถ้าไม่อยากพลาดบทความดีๆ ความรู้แน่นๆ แบบนี้ ก็อย่าลืมติดตาม Pynpy’ ทางช่องทาง Facebook, Instagram, Twitter (X), Youtube, Tiktok และ Line กันไว้ด้วยนะคะ 🥰💜