ทำไงดี! ประจำเดือนที่ควรจะมาดันหายไป หรือเรากำลังจะกลายเป็นตัวมัม ตัวมารดากันล่ะเนี่ยย!? 😱 เคยเป็นกันมั้ยคะเหล่ามนุษย์เมนส์? ที่เมื่อประจำเดือนเจ้ากรรมดันขาดหายไป ความคิดแรกที่ผุดขึ้นมาในหัวก็คือความคิดที่ว่า “หรือว่าเรากำลังจะท้อง?”
ซึ่ง Pynpy’ ขอบอกเลยว่า ความคิดนั้นก็ไม่ใช่สิ่งที่ผิดเพี้ยนแต่อย่างใดค่ะ เพราะเมื่อประจำเดือนที่ควรมาสม่ำเสมอทุกเดือนขาดไป ย่อมเป็นธรรมดาที่เราจะมีความคิดเกี่ยวกับการตั้งครรภ์และเบบี๋มาเยือนก่อนเป็นอันดับแรก และเมื่อมีความคิดแบบนี้ ความคิดที่ควรจะตามมาติดๆ เลยก็คือ “การตรวจครรภ์” 🤰🏻ยังไงล่ะคะ เพื่อให้รู้กันไปเลยว่าตกลงที่ประจำเดือนขาดไปเนี่ย เราท้องหรือเปล่าา!?
ทำไมเราถึงควรตรวจครรภ์เมื่อประจำเดือนขาด
โดยปกติแล้ว ผู้หญิงมักจะสงสัยว่าเรากำลังตั้งครรภ์หรือเปล่าเมื่อมีอาการผิดปกติ เช่น คลื่นไส้ อาเจียน เวียนหัว ปัสสาวะบ่อย หรืออาจจะมีปัญหาท้องอืด เต้านมขยาย แต่ส่วนใหญ่ที่จะตกใจกันก็คือ ประจำเดือนที่ควรจะมาแต่ยังไม่มา
รศ.ร.อ.นพ. มานพชัย ธรรมคันโธ, ผู้เชี่ยวชาญด้านสูตินรีแพทย์ โรงพยาบาลศิริราช
การขาดประจำเดือน เป็นสัญญาณแรกที่บ่งบอกถึงการตั้งครรภ์ค่ะ จึงไม่แปลกที่เหล่ามนุษย์เมนส์จะกังวลเมื่อประจำเดือนที่ควรมากลับไม่มา โดยเฉพาะหลังการมีเพศสัมพันธ์ แต่การมาของประจำเดือนในมนุษย์เมนส์แต่ละคนนั้นก็ไม่เหมือนกันค่ะ บางคนก็ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ บางคนก็ประจำเดือนมาตรงวันเป๊ะๆ ทุกเดือน การตรวจครรภ์จึงเป็นวิธีที่จะให้คำตอบกับเราได้แม่นยำที่สุดนั่นเอง
นอกจากนี้ อาการของคนที่กำลังตั้งครรภ์ก็จะมีความคล้ายคลึงกับอาการป่วยที่หลายๆ คนมักจะเป็นช่วงที่ประจำเดือนกำลังจะมาเช่นกันค่ะ ไม่ว่าจะเป็นอาการคลื่นไส้ วิงเวียน อ่อนเพลีย อยากอาเจียน รู้สึกคัดเต้านม และมีตกขาวมากกว่าปกติ ทำให้อาการของคนกำลังจะมีประจำเดือนกับคนที่กำลังตั้งครรภ์นั้นแทบจะไม่ต่างกันเลย 🙅🏻♀️
เพราะแบบนี้ เราถึงควรตรวจครรภ์ทันทีเมื่อประจำเดือนขาดยังไงล่ะคะ ✅
Pynpy’ แจก Tips! ตรวจครรภ์ยังไงได้บ้าง? แล้วควรตรวจเมื่อไรดี?
เมื่อเรารู้ถึงเหตุผลที่ว่า ทำไมเราต้องตรวจครรภ์เมื่อประจำเดือนขาด กันแล้ว ต่อไป Pynpy’ ก็จะมาแจก Tips ดีๆ ให้กับเหล่ามนุษย์เมนส์กันบ้างค่ะ ว่าถ้าคิดจะตรวจครรภ์เนี่ย ควรเร่ิมตรวจตอนไหนดี? แล้วการตรวจครรภ์นั้นตรวจด้วยวิธีไหนได้บ้าง?
ควรตรวจครรภ์เมื่อไร?
การตรวจครรภ์นั้นสามารถเริ่มตรวจได้ตั้งแต่ 2-3 วันแรกที่ประจำเดือนขาดไปเลยค่ะ แต่ผลลัพธ์ที่ได้จากวิธีนี้อาจจะแม่นยำแค่กับมนุษย์เมนส์ที่ประจำเดือนมาตรงทุกเดือน ส่วนมนุษย์เมนส์คนไหนที่ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ Pynpy’ ก็ขอแนะนำว่า ให้เพื่อนๆ นับไปจากวันที่มีเพศสัมพันธ์เป็นเวลา 10-14 วัน แล้วค่อยตรวจการตั้งครรภ์ จะได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดค่ะ
แต่ถ้าไม่อยากนับวันเอง หรือกลัวว่าจะนับวันผิดพลาด การใช้แอปพลิเคชันที่ช่วยบันทึกการมาของรอบเดือนในแต่ละเดือนนั้นก็ช่วยได้มากเลยล่ะค่ะ 🤩 นอกจากที่เราจะไม่ต้องจำวันต่างๆ เองแล้ว แอปเหล่านี้ก็ยังสามารถช่วยบอกวันตกไข่ หรือวันที่ประจำเดือนรอบถัดไปจะมาได้อีกด้วยนะคะ
สามารถตรวจการตั้งครรภ์ด้วยวิธีไหนได้บ้าง?
หลายๆ คนอาจจะคิดว่า การตรวจการตั้งครรภ์นั้นสามารถทำได้โดยการใช้ที่ตรวจครรภ์เพียงอย่างเดียว แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่เลยค่ะ! ❌ เพราะวิธีการตรวจการตั้งครรภ์นั้นยังมีอีกหลากหลายแบบให้เหล่ามนุษย์เมนส์หรือมนุษย์แม่ได้เลือกตรวจ ไม่ว่าจะเป็น…
- ใช้ที่ตรวจครรภ์ – วิธีนี้เป็นวิธีการตรวจการตั้งครรภ์ที่สะดวกและง่ายที่สุดค่ะ เพราะสามารถหาซื้อที่ตรวจครรภ์ได้ตามร้านสะดวกซื้อและร้านขายยา โดยที่ตรวจครรภ์จะมีด้วยกันทั้งหมด 3 แบบ นั่นก็คือ แบบจุ่ม (Test Strip) แบบหยด (Pregnancy Test Cassette) และแบบปัสสาวะผ่าน (Pregnancy Midstream Tests)
- ตรวจการตั้งครรภ์โดยห้องปฏิบัติการ – วิธีนี้จะมีขั้นตอนการตรวจที่คล้ายกับการใช้ที่ตรวจครรภ์ค่ะ เพียงแต่เราจะต้องพาตัวเองไปที่โรงพยาบาล และให้เจ้าหน้าที่จัดการตรวจด้วยวิธีที่เรียกว่า “Urine Pregnancy Test (UPT)” และวิธีนี้จะสามารถตรวจได้ตั้งแต่ตอนที่ช่วงระดับฮอร์โมนยังไม่สูงเลยนะคะ
- การเจาะเลือด – วิธีนี้เป็นวิธีการตรวจที่ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำที่สุดค่ะ โดยจะสามารถตรวจพบการตั้งครรภ์ได้ตั้งแต่ 2 สัปดาห์แรกที่มีการปฏิสนธิเกิดขึ้น ในขณะที่บางคนใช้ที่ตรวจครรภ์แล้วได้ผลว่าไม่ท้อง การเจาะเลือดกลับได้ผลว่า พบฮอร์โมนการตั้งครรภ์เกิดขึ้นแล้ว ก็มีค่ะ
- ตรวจด้วยอัลตราซาวนด์ – วิธีนี้เป็นการตรวจด้วยการส่งคลื่นเสียงความถี่สูงไปยังเนื้อเยื่อต่างๆ ในช่องท้องและสร้างภาพขึ้นมา โดยวิธีนี้จะช่วยให้ทราบผลลัพธ์ด้านต่างๆ อย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็นการตั้งครรภ์ อายุครรภ์ ตำแหน่งการตั้งครรภ์ ไปจนถึง มีถุงน้ำหรือซีสต์ในรังไข่หรือไม่
เป็นยังไงกันบ้างคะ วิธีการตรวจการตั้งครรภ์นั้นมีมากกว่าที่เพื่อนๆ คิดกันใช่มั้ยล่ะ? 🤔 รู้แบบนี้แล้ว ใครที่กำลังสงสัยว่า เอ… นี่เบบี๋กำลังจะมาใช่มั้ยนะ? ก็ไม่ต้องมัวสงสัย รีบตรวจให้รู้ชัดๆ กันไปเลยดีกว่า!~
นอกจากตั้งครรภ์แล้ว ประจำเดือนขาดยังอาจเป็นสัญญาณของอาการอื่นๆ ได้ด้วยนะ!
ถึงแม้ว่าการตั้งครรภ์จะเป็นชุดความคิดแรกที่แว้บเข้ามาในหัวเมื่อประจำเดือนขาดไป แต่จริงๆ แล้วการที่ประจำเดือนขาดนั้นก็ยังเป็นสาเหตุและสัญญาณที่บ่งบอกถึงโรคอื่นๆ ได้อีกด้วยค่ะ เพราะฉะนั้นนอกจากที่จะตั้งคำถามกับตัวเองว่าเรากำลังตั้งครรภ์หรือไม่แล้ว ก็ควรจะสังเกตุอาการอื่นๆ ร่วมด้วยนะคะ
เพราะการที่ประจำเดือนขาด ยังสามารถเป็นสัญญาณการบอกถึงสถานะสุขภาพของเราในขณะนี้ได้อีกด้วยนั่นเองค่ะ ไม่ว่าจะเป็น การเข้าสู่วัยทองหรือวัยหมดประจำเดือน, มีน้ำหนักตัวมากหรือน้อยจนเกินไป, มีความผิดปกติของฮอร์โมน, มีภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบ หรือมีความเครียดมากเกินไป ใครที่มีอาการเหล่านี้ร่วมด้วย นอกจากจะตรวจครรภ์แล้ว ก็อย่าลืมไปพบคุณหมอเพื่อตรวจสุขภาพกันด้วยนะคะ 👩🏻⚕️
ไม่น่าเชื่อเลยนะคะว่า การที่ประจำเดือนขาดไปนั้นจะสามารถบอกถึงอะไรได้มากมายขนาดนี้ และเมื่อพูดถึงประจำเดือน Pynpy’ ก็นึกขึ้นได้ค่ะว่าวันนี้ Pynpy’ มีไอเท็มดีๆ มาฝากเหล่ามนุษย์เมนส์กันด้วย แต่ไอเท็มนั้นจะคืออะไร เราไปดูพร้อมๆ กันเลยค่ะ ❤️
ไม่ว่าจะมีเบบี๋หรือไม่ ก็ให้กางเกงในอนามัย Pynpy’ อยู่กับคุณในทุกช่วงเวลา
ไม่ว่ากำลังจะมีเบบี๋หรือเป็นแค่มนุษย์เมนส์ธรรมดา การดูแลน้องจิ๊มิโกะด้วยความใส่ใจก็ยังเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ สำหรับเหล่ามนุษย์เมนส์อยู่ดีค่ะ เพราะแบบนั้น Pynpy’ เลยอยากขอแนะนำให้ทุกคนรู้จักกับ กางเกงในอนามัย Pynpy’ นวัตกรรมที่พร้อมอยู่กับเหล่ามนุษย์เมนส์ตลอดเวลา 💖
โดยกางเกงในอนามัย Pynpy’ เป็นสิ่งทอที่ถูกผลิตขึ้นมาด้วยเทคโนโลยีพิเศษ ทำให้สามารถระบายอากาศได้ดี ไม่อับชื้น แต่ยังสามารถป้องกันการซึมเปื้อนและสามารถดูดซึมได้เทียบเท่ากับผ้าอนามัยจำนวน 2-3 แผ่น สามารถใส่ได้นานสูงสุด 12 ชั่วโมงโดยไม่รู้สึกอึดอัดบริเวณน้องสาว ไม่ว่าจะกำลังท้องหรือไม่ ไม่ว่าใครก็ต้องตกหลุมรักกางเกงในอนามัย Pynpy’ กันแน่นอนค่ะ 🥰
นอกจากนี้ ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์ไซส์ไหน มีไลฟ์สไตล์แบบไหน ก็สามารถเลือกใส่กางเกงในอนามัย Pynpy’ กันได้ทั้งนั้นค่ะ เพราะเรามีด้วยกันถึง 3 รุ่น 11 ไซส์ ตั้งแต่ไซส์ 3XS ไปจนถึง 5XL พร้อมให้ทุกคนหยิบขึ้นมาสวมใส่ได้ทุกที่ ทุกเวลา แถมยังไม่ต้องใส่ผลิตภัณฑ์อนามัยอื่นๆ ให้เปลืองด้วยค่ะ เพราะเราเป็นกางเกงในอนามัย (Period Panties) ที่สามารถใส่แทนผ้าอนามัยได้เลย! ทำให้ใส่แค่ตัวเดียวก็เอาอยู่~
เริ่ดสะแมนแตนขนาดนี้ ไม่มีได้เหรอค้าาา! ใครที่สนใจ อยากมีกางเกงในอนามัย Pynpy’ ใส่ได้ทุกๆ วัน ก็สามารถไปเลือกช้อปปิงได้ที่หน้าเว็บไซต์ หรือที่หน้าร้านตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำ และถ้าไม่อยากพลาดคอนเทนต์ดีๆ ที่คอยเป็นเพื่อนคู่คิดให้กับชาวมนุษย์เมนส์ ก็อย่าลืมไปติดตาม Pynpy’ ผ่านทาง Facebook, Twitter, Instagram, YouTube, TikTok และ Line เลยนะค้า 🫶🏻💜