ใคร ๆ ก็รู้ว่าเรื่องนอนเป็นเรื่องสำคัญใช่ม๊า แต่ถ้าอาการ ‘ปัสสาวะเล็ดตอนกลางคืน’ เป็นอุปสรรคที่ทำให้หลับไม่สนิท หลับไม่ลึก หลับไม่ยาว จนอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพอื่น ๆ อีก เพื่อน ๆ ก็ควรได้รู้ 5 ทริกนี้ และถ้าได้เอาไปใช้จริง Pynpy’ เชื่อว่าจะทำให้คุณภาพการนอนดีขึ้นแน่นอนค่า ถ้าพร้อมแล้ว ไปนอนกันเลย… เอ้ย! ไปดูกันเลย!!!
5 ทริกที่จริงใจ เพื่อให้นอนได้ดีขึ้น แม้มี ‘ปัสสาวะเล็ดตอนกลางคืน’
โรคเกี่ยวกับทางเดินปัสสาวะมีหลายรูปแบบ และภาวะปัสสาวะเล็ดก็มีหลายประเภทค่ะ ซึ่งที่พบบ่อย ๆ และกระทบการนอนสุด ๆ ก็มักจะเกิดกับอาการปัสสาวะเล็ด ปัสสาวะราด แบบผสม ปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะค้าง เพราะภาวะพวกนี้เกิดจากที่ควบคุมการปลดปล่อยฉี่ไม่ได้นั่นเองค่ะ แล้วพอถึงเวลาที่จะต้องหลับ ก็ยิ่งไม่สามารถควบคุมได้เลย ทีนี้จะรับมือยังไงดี ตาม Pynpy’ ไปดูทริกเลิศ ๆ กันเลยค่า!
1. ปัสสาวะเล็ดตอนกลางคืน ตื่นแล้วต้องนอนต่อให้ได้
ถ้าเพื่อน ๆ ต้องตื่นกลางดึกเพื่อมาเข้าห้องน้ำล่ะก็ ควรใส่ใจเรื่องการลุกออกจากเตียงแล้วกลับมานอนต่อให้ได้ค่ะ
- เตรียมทางเดินจากเตียงนอนไปห้องน้ำให้ปลอดภัย ไม่มีอะไรมาเกะกะขวางทาง หรือเสี่ยงการสะดุดหกล้มค่ะ เพราะถ้านิ้วก้อยเท้าเผลอเตะอะไรเข้าล่ะก็ ต้องเจ็บจนตาสว่างแหง ๆ เลยค่ะ
- ไม่ควรเปิดไฟสว่างทั่วบ้านเพื่อลุกไปเข้าห้องน้ำ เพราะนั่นคงยากที่จะกลับมานอนต่อค่ะ ถ้าอยากให้กลับมานอนต่อง่ายหน่อย ก็ควรเปิดไฟให้น้อยที่สุด หรือเลือกใช้ไฟกลางคืนแบบตรวจจับความเคลื่อนไหวแทนค่ะ
- ถ้าการเดินไปเข้าห้องน้ำต้องมีขึ้นลงบันได หรือเดินไกลจริง ๆ ล่ะก็ การใช้ส้วมเคลื่อนที่ก็อาจเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจนะคะ
- ถ้าเป็นผู้สูงวัยหรือมีปัญหาด้านการเคลื่อนไหว ควรวางไม้เท้าช่วยเดินไว้ใกล้ ๆ ตัว และติดตั้งราวจับในห้องน้ำสักหน่อยก็ดีค่า
แล้วถ้าการตื่นกลางดึกครั้งไหน เพื่อน ๆ หลับต่อไม่ได้ ลองทำตาม Tips ด้านล่างนี้น้าค้า
- ปิดไฟให้สนิท หรือใช้ผ้าปิดตา ไม่ก็ใช้ไฟหรี่ที่มีแสงสีส้มหรือแดงเท่านั้น
- ปิดเสียงให้เงียบที่สุด หรือใช้ที่อุดหู ไม่ก็เปิด White Noise ช่วยกลบเสียงรบกวนเอา
- รักษาอุณหภูมิห้องให้เย็นสบายเอาไว้
- อย่าได้มองนาฬิกาเด็ดขาด
- งดใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกอย่าง
- นอนสมาธิ อยู่กับลมหายใจ และหายใจเข้าลึก ๆ ทางจมูก แล้วหายใจออกช้า ๆ ทางปาก
- ถ้านอนพลิกไปพลิกมานานกว่า 20 นาทีแล้ว ก็ยังนอนไม่หลับอยู่ ให้หาอะไรที่ผ่อนคลายทำค่ะ เช่น อ่านหนังสือ หรือฟังเพลงเบา ๆ จนกว่าจะรู้สึกง่วง
2. สร้างบรรยากาศ ปรับนิสัย ให้เหมาะกับการ Deep Sleep
ทุกคนควรได้นอนหลับลึก หรือ Deep Sleep ราว ๆ 20% ของเวลานอนทั้งหมดในแต่ละคืนค่ะ เพราะ Deep Sleep เป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดในการซ่อมแซมและฟื้นฟูร่างกายตอนนอน ดังนั้น ถ้าเพื่อน ๆ หลับ 8 ชั่วโมง ก็ควรมี Deep Sleep ประมาณชั่วโมงครึ่งค่ะ
ทางช่อง Sleep Doctor ได้พูดถึงวิธีการเพิ่มระยะเวลา Deep Sleep ไว้ว่า…
- ทำให้ห้องนอนมืดและเงียบมากที่สุด ถ้ามีแสงรบกวน ใช้ม่านกันแสงหรือผ้าปิดตาช่วยได้ ส่วนเสียงรบกวน ใช้เสียงเพื่อการพักผ่อนมากลบเสียงรบกวนเอา เช่น White Noise เป็นต้นค่ะ
- เข้านอนเวลาเดิมทุกคืนและตื่นนอนเวลาเดิมทุกเช้า เพราะตารางการนอนจะทำให้ร่างกายรู้หน้าที่ว่าได้เวลาพักผ่อนแล้ว
- ปรับนิสัยและสุขอนามัยให้พร้อมกับการเข้านอน ได้แก่ ไม่กินมื้อใหญ่หรืออาหารหนัก ๆ ตอนเย็น ดูแลความสะอาดโดยเฉพาะการอาบน้ำ งดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และฝึกทำสมาธิ
- ไม่ควรนอนกลางวันหรืองีบหลับมากเกินไป แนะนำให้แวะงีบแค่ 25 นาที ระหว่างบ่ายโมงถึงบ่าย 3 เท่านั้นนะคะ
- งดคาเฟอีนก่อนเวลาเข้านอนประมาณ 10 ชั่วโมง
- ออกกำลังกายทุกวัน อย่างน้อยวันละ 20-30 นาที
3. ทำให้กระเพาะปัสสาวะว่างเปล่ามากที่สุดเท่าที่จะทำได้
สำหรับข้อนี้ จะช่วยให้เพื่อน ๆ มั่นใจได้ว่ากระเพาะปัสสาวะของเพื่อน ๆ จะว่างเปล่ามากที่สุดก่อนจะเข้านอน เพื่อลดโอกาสที่จะตื่นขึ้นมาเพราะอาการปวดปัสสาวะ หรือปัสสาวะเล็ดราดตอนกลางคืนค่ะ
- งดการดื่มอย่างน้อย 2 ชั่วโมงก่อนเข้านอน
- ไปฉี่สัก 2 รอบก่อนเข้านอน
- หากต้องกินยาก่อนนอน จำเป็นต้องดื่มน้ำ ควรปรึกษาแพทย์ก่อน
- ห้ามลดปริมาณน้ำดื่มต่อวัน แต่ใช้วิธีบริหารการแบ่งดื่มน้ำระหว่างวันให้ดี
Pynpy’ Tips
สำหรับคนที่อยากได้ตัวช่วยบริหารการแบ่งดื่มน้ำระหว่างวัน ขอแนะนำให้ใช้พวก Application แจ้งเตือนดื่มน้ำค่ะ แอปเหล่านี้หาโหลดได้ทั่วไปเลยค่ะ และมักมีฟังก์ชั่นที่หลากหลาย เช่น ตั้งเป้าหมายการดื่มน้ำ บันทึกปริมาณน้ำที่ดื่ม และสถิติการดื่มน้ำ รวมไปถึงไดอารี่ปัสสาวะด้วยะค้า
4. เปิดใจคุยกับคนร่วมเตียง เพราะยิ่งกังวล ยิ่งเล็ดไหล
อันนี้สำคัญไม่แพ้ข้อไหน ๆ เลยนะคะ เพราะความกังวล ความเครียด ความไม่มั่นใจ สามารถทำให้อาการปัสสาวะเล็ดแย่ลงได้น้า ดังนั้น อยากให้เพื่อน ๆ คุยกับคนร่วมเตียงตรง ๆ ไปเลย ไม่มีอะไรที่จะต้องเขินอาย และอย่าเพิ่งคิดไปก่อนว่าเขาจะมีความเห็นที่ไม่ดีกลับมา ในทางกลับกัน เพื่อน ๆ จะยิ่งได้กำลังใจและแรงสนับสนุนด้วยซ้ำจ้า สิ่งที่เพื่อน ๆ ควรคุยก็คือ…
- อาการปัสสาวะเล็ดตอนกลางคืนของเพื่อน ๆ เป็นยังไง มากน้อยแค่ไหน มีตื่นกลางดึกบ่อยไหม
- สิ่งที่อาจจะเกิดอะไรขึ้นมีอะไรบ้าง เช่น ลุกไปเข้าห้องน้ำบ่อย ต้องนอนตะแคงเพื่อลดอาการปวดฉี่ ตื่นมาแล้วต้องเข้าห้องน้ำโดยทันที เป็นต้นค่ะ
- ปรึกษาหมอมาแล้วว่ายังไงบ้าง มีวิธีรักษาแบบไหนบ้าง และจะรับมือกับปัสสาวะเล็ดตอนกลางคืนยังไงดี
5. กางเกงซึมซับปัสสาวะ Pynpy’ ใส่แล้วอุ่นใจทั้งตัวเองทั้งคนข้าง ๆ
กางเกงซึมซับปัสสาวะ Pynpy’ คือ ไอเทมที่ชาวปัสสาวะเล็ดขาดไม่ได้เลยค่ะ เพราะเพื่อน ๆ ต้องการตัวช่วยที่สามารถรองรับของเหลว แล้วเสกให้มันแห้งหายวับได้ในพริบตา ไม่อย่างงั้นต้องนอนอับชื้นตลอดคืนแน่ ๆ ค่ะ แถมยังไม่ต้องใช้อุปกรณ์หรือผลิตภัณฑ์อนามัยใด ๆ มาเสริมเลยน้า ก็แค่ใส่กางเกงในตัวนี้ตัวเดียวเท่านั้นค่ะ บ๊ายบายผ้าอ้อม ผ้าอนามัย และแผ่นรองฉี่ที่คอยกวนใจไปได้เลยน้า
ใครอยากรู้จักคุณสมบัติอันลือโลกของกางเกงซึมซับปัสสาวะ Pynpy’ ล่ะก็ เชิญรับชมต่อด้านล่างเลยค่ะ!
ไม่ว่าจะกลางวันหรือกลางคืน ก็ใส่ Pynpy’ ได้ทุกที่ทุกเวลา
กางเกงซึมซับปัสสาวะ Pynpy’ คือ กางเกงในที่หน้าตาออกจะธรรมดา ๆ แต่ซ่อนนวัตกรรมสิ่งทอสุดพิเศษแบบเนียน ๆ ช่วยลดกลิ่นอับและซึบซับของเหลวเอาไว้ ให้คนใส่รู้สึกแต่ความแห้งสบาย และไม่หนาตุงให้รู้สึกแปลก ๆ ค่ะ แถมยังมีมาตรฐาน OEKO-TEX Standard 100 จากสถาบันทดสอบสิ่งทอจากยุโรป และผ่านการทดสอบทางวิทยาศาตร์เป็นมาตรฐานระดับโลก มาการันตีความปลอดภัยด้วยจ้า
- ปัสสาวะเล็ดในผู้ชาย ใช้กางเกงซึมซับปัสสาวะ Pynpy’ รุ่น Signature รองรับของเหลวได้มากสุดถึง 100 ml
- ปัสสาวะเล็ดในผู้หญิง ใช้กางเกงซึมซับปัสสาวะ Pynpy’ รุ่น EASY รองรับของเหลวได้มากสุดถึง 30 ml
ดังนั้น จะปัสสาวะเล็ดตอนกลางคืนหรือกลางวันก็ใส่ได้หมด แถมเรื่องทำความสะอาดก็ง๊ายง่าย แค่เอาไปล้างน้ำเพื่อเอาคราบฉี่ออกก่อน แล้วค่อยเอาไปซักนะค้า เสร็จแล้วก็เอาไปตากให้แห้ง และนำกลับมาใช้ใหม่ได้เลย! รู้แบบนี้แล้ว เพื่อน ๆ ก็คงจะจินตนาการถึงการนอนที่เต็มอิ่ม ไร้กังวล และแห้งสบายได้แล้วแหง ๆ
อย่ารอช้าค่ะ! วัดไซซ์แล้วจิ้มสั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์นี้ได้เลยน้า หรือจะแว๊บไปดูรีวิวจากผู้ใช้จริงก่อนก็ได้น้า ทีนี้ก็รู้ทริกครบหมดแล้ว งั้น… ไปนอนกันเลย! แล้วมาพบกันใหม่ที่นี่ที่เดิม สวัสดีและราตรีสวัสดิ์ค่า <3
