การทานยาคุมกำเนิด เป็นอีกหนึ่งวิธีสำหรับการคุมกำเนิดที่เกี่ยวข้องกับฮอร์โมนโดยตรงเลย และแน่นอนว่า… การเลิกทานยาคุม ก็มีสิ่งที่จำเป็นต้องรู้มากมายเหมือนกับตอนก่อนเริ่มทานเลยค่ะ Pynpy’ พร้อม! และถ้าเพื่อน ๆ พร้อมแล้ว ไปดูกันต่อเลยค่ะ!
ทำไมต้องเลิกทานยาคุม? 7 เหตุผลสุดฮิตที่อาจทำให้ต้องการเลิกทานยาคุม
1. ต้องการมีลูก
2. ต้องการเปลี่ยนวิธีการคุมกำเนิดเป็นแบบอื่น ๆ เช่น การฉีดยาคุม การฝังยาคุม และการใส่ห่วงคุมกำเนิด เป็นต้น
3. มีเพศสัมพันธ์ไม่บ่อย แต่ก็ควรใช้ถุงยางอนามัยเมื่อมีเพศสัมพันธ์ทุกครั้งเพื่อป้องกันโรคต่าง ๆ ด้วยน้าค้า
4. มีผลข้างเคียงที่ไม่ดีเกิดขึ้น เช่น คลื่นไส้ ปวดหัว หงุดหงิด ประจำเดือนมาไม่ปกติ ประจำเดือนมาช้า ฯลฯ
5. อยู่ในช่วงวัยที่ไม่ต้องการคุมกำเนิดอีกต่อไป เช่น อายุ 55 ปี หรือหมดประจำเดือนแล้ว
6. ใช้ยาคุมด้วยเหตุผลอื่น ๆ โดยที่การคุมกำเนิดไม่ใช่เหตุผลหลัก เช่น เพื่อป้องกันสิว เพื่อควบคุมรอบประจำเดือน และเพื่อปรับร่างกายที่เกี่ยวข้องกับประจำเดือน
7. กระทบสุขภาพบางอย่าง เช่น ไม่สามารถทานยาคุมร่วมกับยาอื่น ๆ ได้ เช่น มีอาการของโรคหัวใจหรือมะเร็ง
Pynpy’ Tips การทานยาคุมกำเนิดที่มีส่วนผสมของฮอร์โมนเอสโตรเจน จะเพิ่มโอกาสที่จะทำให้เกิดลิ่มเลือดอุดตันและเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคที่เกี่ยวกับหัวใจค่ะ เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดดำอักเสบ หากเพื่อน ๆ เป็นโรคหัวใจบางชนิดอยู่แล้ว หรืออาจเป็นกลุ่มเสี่ยง ควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์ด้วยน้าค้า
แล้วจะเลิกทานยาคุม ทำยังไงน้า?
โดยทั่วไป… ยาคุมกำเนิดสามารถเลิกทานตอนไหนก็ได้ค่ะ ไม่จำเป็นต้องทานให้หมดแผงก่อน และไม่จำเป็นต้องปรึกษาแพทย์เรื่องการเลิกทานยาคุม สามารถเลิกทานด้วยตัวเองได้เลยค่ะ
แต่หากพูดถึงคำแนะนำที่ดีที่สุดสำหรับการเลิกทานยาคุมนั้น… ก็สามารถรอทานให้หมดแผงก่อนก็ได้ค่ะ เพื่อลดความเสี่ยงของอาการเลือดออกกะปริดกะปรอยนั่นเอง
และโดยส่วนใหญ่นะคะ ในช่วงแรกของการเลิกทานยาคุม… รอบเดือนก็มีโอกาสที่จะคลาดเคลื่อน คาดเดายากขึ้น หรือเลื่อนออกไป แต่ที่สำคัญนะคะเพื่อน ๆ ประจำเดือนของทุกคนควรจะกลับมาภายใน 3 เดือนค่ะ
Pynpy’ Tips การทานยาคุมนานมากกว่า 5 ปี มีโอกาสที่จะเกิดมะเร็งได้มากขึ้น เช่น มะเร็งปากมดลูก มะเร็งเต้านม แต่เมื่อเลิกทานยาคุม ความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งก็จะลดลงได้เช่นกันค่ะ และโดยเฉพาะการเลิกทานยาคุมกำเนิดได้นานกว่า 10 ปี ความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งจะสามารถลดลงไปเท่ากับผู้ที่ไม่เคยใช้ยาคุมกำเนิดได้อีกด้วย
นอกจากเพื่อน ๆ ควรสังเกตการมาของรอบเดือนถัด ๆ ไปหลังจากเลิกทานยาคุมแล้ว Pynpy’ อยากให้เพื่อน ๆ ได้รู้ถึงอาการหรือผลกระทบด้วยค่ะ เพื่อน ๆ จะได้สังเกตความเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้น
รู้ก่อนอุ่นใจกว่า! การเลิกทานยาคุมจะมีอาการหรือผลกระทบอะไรกับร่างกายบ้าง
มีผู้ที่ออกมาให้ความรู้มากมายเกี่ยวกับผลกระทบและอาการต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นหลังจากเลิกทานยาคุม เช่น ช่อง “พยาบาลแม่จ๋า ไขปัญหาน้องสาว” ทั้งบน YouTube และ TikTok เลย
Pynpy’ เลยรวบรวมข้อมูลมาสื่อสารแบบภาษาบ้าน ๆ เข้าใจง่าย ๆ มาให้ดังนี้ค่ะ
- เมื่อเลิกทานยาคุม สามารถกลับมาตั้งครรภ์ได้ทันที
- รอบเดือนอาจแปรปรวนได้หลายรูปแบบ และอาจใช้เวลา 1-3 เดือนที่จะกลับมาเป็นปกติ
- ประจำเดือนอาจมาเยอะขึ้น และอาจเยอะกว่าก่อนที่ได้เริ่มทานยาคุมด้วย
- อาการ PMS อาจกลับมา ทำให้รู้สึกหดหู่ กังวล หงุดหงิด อารมณ์แปรปรวน
- น้ำหนักอาจเปลี่ยนแปลง ทั้งมากขึ้นและลดลง
- สิวและขนอาจกลับมา เนื่องจากความไม่สมดุลของฮอร์โมน
- อาการปวดหัวมากขึ้นสำหรับคนที่เป็นไมเกรน โดยเฉพาะเป็นไมเกรนช่วงมีประจำเดือน
Pynpy’ Tips ยาคุมกำเนิดเป็นยาที่หมดฤทธิ์เร็ว ดังนั้น แม้จะทานยาคุมมาเป็นเวลานานแล้ว ก็ไม่ได้ส่งผลให้เกิดภาวะมีลูกยากค่ะ เพราะเมื่อหยุดกินยาคุมก็จะมีประจำเดือนและมีไข่ตกภายในไม่กี่เดือนนั่นเองค่า
Pynpy’ เชื่อว่าทุกคนสามารถรับมือกับอาการหลังเลิกทานยาคุมได้ค่ะ
เพื่อน ๆ สามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลงได้แน่นอนค่ะ เพราะ Pynpy’ จดสิ่งที่สำคัญ ๆ มาให้แล้วจ้า~
- สิวและผิวพรรณ : หากเพื่อน ๆ สังเกตเห็นว่าสิวและผิวพรรณมีท่าทีจะแย่ลง ควรปรึกษาหมอด้านผิวหน้า เพื่อรับยาทาและยาทานมาดูแลตัวเองน้าค้า
- การปวดท้องเมนส์ : เพื่อน ๆ ควรเตรียมยาแก้ปวด การออกกำลังกาย ที่ประคบร้อน และวิธีลดอาการปวดท้องอีกมากมายไว้ก่อนให้อุ่นใจน้าค้า
- การวางแผนมีลูก : หากเพื่อน ๆ ต้องการมีลูก ควรปรึกษาและวางแผนร่วมกับแพทย์ และรวมถึงการตรวจภายในด้วยค่ะ
- อาการ PMS : เพื่อน ๆ สามารถเริ่มจากตารางเวลาการนอนหลับที่ดีต่อสุขภาพและการออกกำลังกายอย่างเหมาะสม ก็จะช่วยส่งผลดีอย่างมากต่ออารมณ์ค่ะ
- น้ำหนัก : หากเพื่อน ๆ กังวลเรื่องการเปลี่ยนแปลงของน้ำหนักล่ะก็ การดูแลเรื่องอาหารการกินให้เหมาะสมก็เป็นการเริ่มต้นที่ดีเลยล่ะค่ะ
- ประจำเดือนที่ไม่ปกติ : เพื่อน ๆ ควรเตรียมไอเทมคู่ใจติดตัวไว้ เพื่อช่วยลดความกังวลเกี่ยวกับประจำเดือนที่คาดเดาไม่ได้ อยากรู้ไหมว่าคืออะไร? ไปดูกันเลยค่า!
นี่ไง! เพื่อนซี้คู่ใจของทุกคนในช่วงเลิกทานยาคุม Pynpy’ เอง!
ถ้าเพื่อน ๆ มีกางเกงในอนามัย Pynpy’ มาเป็นตัวช่วยรับมือกับประจำเดือนที่ไม่ปกติในช่วงเลิกทานยาคุม เพื่อน ๆ จะอุ่นใจและคล่องตัวขึ้นมาก เพราะประจำเดือนที่คาดเดาไม่ได้ว่าจะมาเยอะ มาน้อย มาแบบกะปริดกะปรอย ยังไม่มา และไม่รู้จะมาเมื่อไหร่ ใส่กางเกงในอนามัย Pynpy’ ไว้ ก็จะพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์
การดูดซับไร้ที่ติ แห้งสะอาดนานถึง 8-12 ชั่วโมงต่อหนึ่งครั้งที่ใส่ ใส่สบายคล่องตัว ไม่ระคายเคือง มีครบทั้ง 11 ไซซ์ ทำความสะอาดง่าย แค่ล้างผ่านน้ำหลังสวมใส่แล้วบิดให้หมาด ต่อด้วยซักเครื่องหรือซักมือก็ได้ (ใช้น้ำยาซักผ้าปกติเลย) เมื่อตากจนแห้งสนิท ก็นำกลับมาใส่ใหม่ได้เลยค่ะ
อยากได้เพื่อนซี้! กดสั่งซื้อกางเกงในอนามัย Pynpy’ ได้เลย และกดดูรีวิวผู้ใช้จริงก่อนได้ด้วย
และคำถามยอดฮิตสุดท้ายเกี่ยวกับการเลิกทานยาคุมนั้นก็คือ……
จะเลิกทานยาคุมต้องไปพบแพทย์ไหม? หรือต้องไปเมื่อไหร่กันนะ?
เริ่มจากติดตามสังเกตรอบเดือนถัดไปอีก 1-3 เดือนหลังจากเลิกทานยาคุม หากเกิน 3 เดือนแล้วประจำเดือนยังไม่มา ถึงควรไปพบแพทย์ และถ้าหากมีอาการรอบเดือนไม่ปกติ เช่น ไหลเยอะมาก หรือปวดประจำเดือนอย่างรุนแรง ก็ควรไปพบแพทย์เช่นกัน
สำหรับคนที่ต้องการวางแผนมีลูก หรือกำลังเริ่มตั้งครรภ์อยู่ในช่วงหลังเลิกทานยาคุม ควรไปพบแพทย์และอย่าลืมแจ้งแพทย์เรื่องการทานยาคุมด้วยน้าค้า
เพื่อน ๆ ที่อยากได้คำปรึกษา สามารถเข้ามาทักทาย Pynpy’ กันได้ทาง Social Media ต่าง ๆ ทั้ง Facebook, Twitter, Instagram, YouTube และ Line แล้วพบกันใหม่น้าค้า <3