fbpx

เหตุผลที่ว่า “ยาคุมกำเนิด” ไม่ได้มีไว้ใช้สำหรับปรับฮอร์โมน…

บ่อยครั้งที่ยาคุมกำเนิด มักถูกนำมาใช้เพื่อลดอาการจากการมีฮอร์โมนไม่สมดุล ซึ่งเป็นผลพวงมาจากรอบเดือนหรือประจำเดือน แต่เอาจริงๆ มันแอบย้อนแย้งไหมน้า เพราะโดยแท้จริงแล้ว ยาคุมกำเนิดมีไว้เพื่อลดความเสี่ยงในการตั้งครรภ์ ซึ่งอาจเปลี่ยนหรือมีผลกระทบกับการทำงานของฮอร์โมนและการทำงานของระบบภายในที่เกี่ยวข้องกับรอบเดือนของเพื่อนๆ อยู่แล้วค่ะ

ผู้ใช้ยาคุมกำเนิดเกือบ 14% ใช้ยาคุมกำเนิดด้วยเหตุผลอื่นๆ นอกเหนือจากการคุมกำเนิด โดยในสมัยนี้ หลายคนใช้ยาคุมกำเนิดเพื่อช่วยบรรเทาอาการที่เกิดจากปัญหา​ฮอร์โมนไม่สมดุล เช่น สิว PMS ปวดประจำเดือน อารมณ์ไม่คงที่ หรืออาการร้อนวูบวาบเป็นต้น - ข้อมูลอ้างอิงโดย Any Myers, MD. 
การใช้ยา

และเพื่อให้เพื่อนๆ เข้าใจถึงปัญหาหรือข้อควรระวังของการใช้ยาคุมกำเนิดแบบผิดจุดประสงค์มากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะถูกจ่ายยาโดยแพทย์หรือเภสัช หรือการซื้อยาคุมกำเนิดมาทานเอง Pynpy’ เลยลิสต์ 5 ปัญหาใหญ่ๆ มาให้เพื่อนได้ลองอ่านเล่นกันค่ะ แบบนี้ เพื่อนๆ อาจจะเริ่มเข้าใจถึง Point หลักของการใช้ยาคุมกำเนิดอย่างถูกต้องกันมากขึ้นได้น้าาา

5 ปัญหาที่อาจเจอ เมื่อใช้ยาคุมกำเนิดแบบผิดจุดประสงค์

ก่อนที่เราจะ Dive deep เข้าไปดูปัญหาที่อาจเจอเมื่อใช้ยาคุมกำเนิดแบบจุดประสงค์กัน เพื่อนๆ ต้องทำความเข้าใจก่อนว่าการทานยาคุมกำเนิดเพื่อการปรับสมดุลฮอร์โมน มีเอฟเฟ็กต์กับคนที่เป็นโรคแพ้ภูมิตัวเอง และคนที่มีปัญหาไทรอยด์มากกว่าผู้ที่มีประจำเดือนคนอื่นๆ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีปัญหาหรือข้อควรระวังใดๆ เลย เนื่องจากยาคุมกำเนิดเป็นฮอร์โมนสังเคราะห์ น้องจึงไม่สามารถทำงานหรือแตกตัวได้เหมือนฮอร์โมนธรรมชาติในร่างกายได้ และอาจทำให้เสี่ยงต่อการเกิดปัญหาสุขภาพอื่นๆ ได้ด้วย เช่น…

1. โอกาสเสี่ยงในการเป็นมะเร็งสูงขึ้น

จากการรายงานจากเว็บไซต์ของโรงพยาบาลไทยนครินทร์ พบว่าผู้ที่ใช้ยาคุมกำเนิดมาเป็นเวลานานกว่า 4-8 ปี มีโอกาสเสี่ยงเป็นมะเร็งเต้านมสูง เนื่องจากยาคุมกำเนิดมีฮอร์โมนเอสโตรเจนสูง และเมื่อได้รับฮอร์โมนเอสโตรเจนสังเคราะห์นี้เข้าร่างกายเป็นเวลานาน การกระตุ้นการทำงานของเซลล์ทำให้เซลล์มีการแบ่งตัวและเจริญเติบโตมากขึ้น จึงทำให้มีโอกาสพบความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งเต้านมสูงถึง 70-80% กันเลยทีเดียวค่ะ

how to check for breast cancer symptoms
Did you know?

การทานยาคุมกำเนิดนาน 4-8 ปี มีโอกาสเสี่ยงเป็นมะเร็งเต้านมมากถึง 1.6 เท่า ในขณะที่การทานยาเสริมฮอร์โมนหลังหมดประจำเดือน 5-10 ปี มีโอกาสเสี่ยงเป็นมะเร็งเต้านมสูงถึง 6 เท่าเลยนะคะ

2. การติดเชื้อรา

ใช่ค่ะ การทานยาคุมกำเนิดในปริมาณมาก ก็เพิ่มโอกาสการติดเชื้อราในช่องคลอดได้เหมือนกันค่ะ เนื่องจากระดับฮอร์โมนที่เพิ่มขึ้น จึงทำให้ Candida (เชื้อราประเภทหนึ่ง) เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน สมดุลฮอร์โมนในร่างกายจึงผิดเพี้ยนเปลี่ยนไป

เชื้อรา

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ใครคนไหนที่ทานยาคุมกำเนิดเป็นเวลานาน และเกิดความกังวลว่าจะเสี่ยงเกิดเชื้อราในช่องคลอดบ่อยๆ Pynpy’ แนะนำให้เพื่อนๆ ปรึกษากับคุณหมอดูก่อนนะคะ ว่าที่ทานยาคุมกำเนิดนี้ เป็นเพราะต้องการคุมกำเนิดในระยะหนึ่งเท่านั้น หรือเป็นการปรับสมดุลฮอร์โมนในร่างกาย เพราะยังไม่มีงานวิจัยไหนที่ศึกษาว่าความเสี่ยงของการเกิดเชื้อราในช่องคลอดจะลดลงเมื่อหยุดใช้ยาจริงๆ เพื่อนๆ อาจจะต้องปรึกษาคุณหมอ หา Alternative อื่นๆ ควบคู่ไปด้วยน้า

3. ภาวะพร่องฮอร์โมนชาย

นั่นแน่ แอบงงใช่ไหมคะ พูดถึงยาคุมกำเนิด เกี่ยวอะไรกับฮอร์โมนชาย…

เข้าใจง่ายๆ แบบนี้เลยค่ะ เนื่องจากการทานยาคุมกำเนิด ซึ่งประกอบด้วยฮอร์โมนเอสโตรเจน = ฮอร์โมนเพศหญิงเป็นหลัก เมื่อซึมซับเข้าสู่ร่างกายเป็นเวลานานในปริมาณมาก Sex Hormone Binding Globulin (SHBG) หรือโปรตีนในเลือดชนิดหนึ่งที่มีหน้าที่ช่วยควบคุมปฏิกิริยาของฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนที่มีต่อร่างกาย เพิ่มขึ้น จึงทำให้ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนธรรมชาติในร่างกายลดลง อาจทำให้พลังงาน ความต้องการทางเพศ หรือแม้กระทั่งกล้ามเนื้อถูกกระทบไปด้วยนั่นเอง

เทสโทสเตอโรน

แบบนี้กลายเป็นว่าเพื่อนๆ พยายามปรับสมดุลฮอร์โมนเพศหญิงจนเกินไป จนทำให้ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนหรือฮอร์โมนเพศชายในร่างกายเปลี่ยนไปจนไม่ปกติได้เหมือนกันน้า

4. โรคพิษต่อตับ หรือตับอักเสบ

รู้หรือไม่ ว่าการคุมกำเนิดมีผลต่อความสมดุลของกลูโคสด้วยนะคะ เนื่องจากอาจส่งผลให้เกิดภาวะดื้ออินซูลิน ซึ่งทำให้เกิดความผิดปกติที่ทำให้เกิดโรคไขมันพอกตับ (NASH) ได้เช่นกันค่ะ แต่งานวิจัยหลายงานมีรายงานว่า หากหยุดทานยาคุมกำเนิด ผลกระทบของยาคุมกำเนิดที่มีต่อตับก็สามารถทุเลาและดีขึ้นได้นะคะ

ภาวะตับมีสารพิษ

แต่เห็นไหมคะ ว่าการทานยาคุมกำเนิด หรือยาประเภทไหนๆ ก็ควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญเสมอ (ยิ่งสำหรับใครที่มีความเสี่ยงในการเกิดโรคตับ ยิ่งต้องปรึกษาคุณหมออย่างละเอียดน้า)

5. ความเสี่ยงในการเกิดปัญหาโรคหัวใจ

แน่นอนค่ะว่าการเพิ่มฮอร์โมนเอสโตรเจนเข้าสู่ร่างกาย นอกจากจะมีข้อดีในบางมุมแล้ว ยังอาจมีข้อที่ควรระวังไว้ด้วยเช่นกัน เนื่องจากเอสโตรเจนชนิดเอทินิลเอสตราไดออล (Ethinyl Estradiol (EE)) ในยาคุมกำเนิด อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดหลอดเลือดอุดตันได้ค่ะ และยิ่งถ้าใช้ยาคุมกำเนิดในปริมาณมากติดต่อกันมาเป็นเวลานาน ก็อาจทำให้ระบบหัวใจและหลอดเลือดเสียหายจนเป็นอันตรายต่อร่างกายได้ไม่แพ้กันนะคะ

cardiovascular problems

โอ้ววว 🤯 ข้อมูลแน่นเกินไป Pynpy’ ให้พักหายใจหายคอกันหน่อยแล้วกัน ทั้งศัพท์ยาก ศัพท์เฉพาะทาง แถมยังมีข้อมูลจากงานวิจัยและแพทย์เฉพาะทางอีกมากมาย เรามาคลายความกังวลใจด้วยวิธีการปรับฮอร์โมนที่สามารถทำได้ด้วยตัวเอง แบบวิธีธรรมชาติกันบ้างดีไหมคะ

ปรับฮอร์โมนด้วยตัวเองได้ด้วยวิธีแบบธรรมชาติ

ใครที่มีใจรัก (สุขภาพ) อยากให้ร่างกายพักแล้ว Take it slow แบบวิธีธรรมชาติ Pynpy’ อยากแนะนำให้เพื่อนๆ ลองหาวิธีอื่นๆ ในการปรับฮอร์โมนแทนการทานยาคุมกำเนิดนะคะ เพราะนอกจากที่เพื่อนๆ จะได้เรียนรู้และรู้จักร่างกายตัวเองมากขึ้นแล้ว ยังเป็นวิธีที่ช่วยปรับฮอร์โมนของเพื่อนๆ ได้ดีขึ้นในระยะยาวด้วยน้า

ฮอร์โมนความสุข

ไม่พูดพร่ำทำเพลง เรามาดูกันหน่อยดีกว่า ว่าเจ้าวิธีธรรมชาติที่ทำได้ด้วยตัวเองที่ Pynpy’ ว่าเนี่ย จะมีอะไรบ้าง

  • ทานอาหารที่ช่วยปรับสมดุลฮอรโมน เช่น น้ำมะพร้าว นมถั่วเหลือง ธัญพืช ผักใบเขียว และผลไม้นานาชนิด
  • พักผ่อนให้เพียงพอย่างมีประสิทธิภาพ หลีกเลี่ยงการเล่นโทรศัพท์ ดูจอหรือทำกิจกรรมที่กระทบเวลานอน เพื่อให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนตามธรรมชาติ
  • ออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมที่ช่วยกระตุ้นการสร้างฮอร์โมนที่ส่งผลดีต่อร่างกาย นอกจากจะทำให้ร่างกายแข็งแรงแล้วยังทำให้จิตใจเบิกบานอีกด้วยนะ
  • เปิดใจลองอาหารเสริมหรือวิตามินอื่นๆ เช่นวิตามิน D วิตามิน B โปรไบโอติก ซิงค์ โอเมก้า 3 หรือแมกนีเซียมเป็นต้น
  • พบปะคุณหมออย่างต่อเนื่อง ตรวจสุขภาพประจำปีอย่างต่อเนื่อง เพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสมกับร่างกายของตัวเอง

วิธีสุดง่ายเพียงไม่กี่ข้อ ใครๆ ก็ทำได้น้าเห็นไหม ใครที่ทำตามกันอยู่แล้ว หรือใครที่กำลังอยากปรับไลฟ์สไตล์ให้เฮลตี้ขึ้นแบบนี้ ทักมาคุยมาเม้ากับ Pynpy’ ได้น้า มีช่องทางให้ติดต่อเราหลากหลายมากมายเลยค่ะ ทั้ง Facebook, Instagram, Tiktok, Twitter (X), Youtube และ Line เลยน้า

กางเกงในอนามัย

ส่วนใครที่อยากมองหาตัวช่วยเสริมเพิ่มความมั่นใจในระหว่างที่ร่างกายยังมีฮอร์โมนที่ไม่สมดุล ยังมีประสบการณ์ประจำเดือนมาไม่ปกติ มีเลือดกระปริดกระปรอย มีตกขาวผิดปกติ หรือมีของเหลวอื่นๆ มากวนใจ ตามมาค่ะ หัวข้อถัดไป ไขข้อสงสัยคลายความกังวลใจให้ได้แน่นอน!

อยาก balance ฮอร์โมน ให้ Pynpy’ ช่วยเตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลง

อ้ะๆ มาสิมา ใครพร้อมที่จะปรับฮอร์โมนให้สมดุล เรามาเตรียมความพร้อมด้วยกางเกงในอนามัย Pynpy’ กันก่อนดีกว่าค่ะ เพราะการที่ฮอร์โมนของเพื่อนๆ ไม่สมดุลนั้น อาจส่งผลให้รอบเดือนผิดเพี้ยน จนบางทีมีของเหลวที่ไหลออกมาทำให้ไม่สบายตัวแบบงงๆ ได้ และในเมื่อชาวประจำเดือนอย่างเราๆ ยังต้องเจอกับปัญหาของเหลวอยู่ร่ำไป กางเกงในอนามัย Pynpy’ ก็พร้อมจะอยู่เคียงบ่าเคียงไหล่กับเพื่อนๆ เองค่ะ

Pynpy'

ด้วยนวัตกรรมสิ่งทอสุดพิเศษที่ผสานกับเส้นใยธรรมชาติ ทำให้กางเกงในอนามัย Pynpy’ รองรับของเหลวได้ทั้งแบบมาน้อยและมามาก จะประจำเดือน ตกขาว หรือแม้กระทั่งคุณแม่มือใหม่หรือวัยเก๋าวัยทองที่มีปัญหาของเหลวอื่นๆ อย่างปัสสาวะเล็ดหรือน้ำคาวปลา ก็ใช้กางเกงในอนามัย Pynpy’ ได้อย่างครอบคลุม แถมยังเพิ่มเลเวลความมั่นใจ ไม่มีซึมเปื้อนได้ด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยีพิเศษที่ซึมซับและล็อกของเหลวไม่ให้ไหลกลับ ดูดซึมได้ดีเทียบเท่าผ้าอนามัย 2-3 แผ่นต่อการสวมใส่ 1 ครั้งเลยน้า

เพื่อนๆ จะเลือกใส่กางเกงในอนามัย Pynpy’ ในวันที่ประจำเดือนมา หรือจะใส่เตรียมพร้อมไว้ก่อนที่เมนส์จะมา ก็ได้เหมือนกันค่ะ หมดห่วงเรื่องน้องเมนส์มาเซอร์ไพรส์แบบไม่ได้จองคิวได้สบายๆ

pynpy' panties model

ที่สำคัญ การใส่กางเกงในอนามัย Pynpy’ สำหรับคนที่อยู่ในโหมดรีเซ็ตฮอร์โมน ไม่ต้องเสริมเติมแต่งอะไรเข้าสู่ร่างกายเลยน้า ไม่ต้องสอดใส่ ไม่ต้องแปะๆ ดึงๆ แค่สวมใส่กางเกงในอนามัย Pynpy’ เหมือนกางเกงในทั่วไป ก็รองรับเจ้าของเหลวทั้งหลายได้อยู่หมัดค่ะ เรามีให้เลือกไซส์ที่พอดีสรีระ และเหมาะกับไลฟ์สไตล์ทุกแบบด้วยน้า ทั้งรุ่น Classic Cut, รุ่น Seamless High Waist และรุ่น Daily มีให้เลือกมากกว่า 11 ไซส์ ใส่สบายๆ สไตล์ตัวเองได้เลยค่ะ

อ้อ เกือบลืมแหน่ะ! ยิ่งใครที่ห่วงเรื่องการติดเชื้อเอย เรื่องสิ่งสกปรกตกค้างเอย ไม่ต้องวอรี่เลยค่ะ กางเกงในอนามัย Pynpy’ มีนวัตกรรม Anti-bacteria ที่ช่วยลดการสะสมของเชื้อแบคทีเรีย ลดความเสี่ยงในการติดเชื้อและสิ่งสกปรกได้ดี เป็นเหมือนเลเยอร์คอยป้องกันให้สุขอนามัยน้องจิมิ้แข็งแรงอีกด้วยนะ เลิศเลอขั้นสุดไปเลยจ้ะ

pynpy' panties all activities

ขายของมาขนาดนี้ ก็ต้องมาพร้อมช่องทางการซื้อแล้วม้างงง ~ เชิญตำกันได้เลยค่ะ จะสั่งซื้อออนไลน์ หรือจะซื้อที่สาขาในห้างชั้นนำทั่วประเทศก็มีให้เลือกจับจ่ายใช้สอยกันตามสะดวกเลยค่ะ หรือจะทักมาสอบถามรายละเอียดกับ Pynpy’ ก่อนก็ได้เหมือนกัน ติดต่อได้ทุกช่องทางเลยค่าาาา 💜 Be healthy, be confident, be you.